โพยกองทุนสุดโดดเด่นจาก 3 บลจ. สุดร้อนแรง อย่าง Phillip, BCAP และ XSpring ที่เพิ่งเปิดให้ซื้อผ่านแอปฯ FINNOMENA สด ๆ ร้อน ๆ มาดูกันเลยว่าชื่อเสียงเรียงนาม หน้าตา ข้อมูล จะเป็นอย่างไร เราได้รวบรวมมาให้กับนักช้อปกองทุนรวมทุกคนแล้ว
สารบัญ
บลจ. ฟิลลิป (PAMC)
PWIN
กองทุน PWIN หรือ Phillip World Innovation จากบลจ. ฟิลลิป (PAMC)
กลยุทธ์การลงทุน
เน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่เกี่ยวข้องหรือได้รับประโยชน์จากนวัตกรรม ในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟ ต่างประเทศ เช่น
- Biotechnology – เทคโนโลยีการตัดต่อพันธุกรรมที่นำไปสู่การพัฒนาการรักษา รวมไปถึงการคิดค้นวัคซีนใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรม Healthcare อีกด้วย ซึ่งบริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทที่นำพาเทคโนโลยีวัคซีนต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 มาให้เราในช่วงล่าสุด อีกทั้งเซ็กเตอร์เฮลธ์แคร์ยังเป็นเซ็กเตอร์ที่มีความโดดเด่น ผ่านการผสมระหว่าง “Growth” และ “Defensive” หรืออาจจะพูดง่าย ๆ ได้ว่าเติบโตแบบผสมทั้ง “เชิงรุก” และ “เชิงรับ”
- Internet Innovation – สิ่งง่าย ๆ ใกล้ตัวเราที่เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนโลกใบนี้ เพราะ ในตอนนี้คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นเรื่องไกลตัว อีกทั้งยังเป็นเซ็กเตอร์ที่ได้รับประโยชน์ในช่วงล่าสุดจากเทรนด์ E-commerce และการ Work from Home อีกด้วย
- Video Games & E-sports – ย้อนไปสัก 10 ปีที่แล้วเกมถูกตีตราว่าเป็นสิ่งมัวเมา แต่ทุกวันนี้เราคงปฏิเสธไมไ่ด้ว่าโลกโอบรับอุตสาหกรรมดังกล่าวมากยิ่งขึ้น และมีคนจำนวนมากหารายได้เป็นกอบเป็นกำได้จากการเล่นเกม สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการทางด้านการบันเทิงของผู้รับชมและทางธุรกิจ
- Cybersecurity – ในเมื่อโลกของเราถูกเชื่อมต่อกันอย่างง่ายดายผ่านอินเทอร์เน็ตและเครือข่าย Cybersecurity จึงเป็นอีกหนึ่งเซ็กเตอร์หัวใจสำคัญที่คอยปกป้องความเป็นส่วนตัวให้กับผู้คน หรือพูดง่าย ๆ ในเชิงลงทุนได้ว่าเป็นเซ็กเตอร์ที่เติบโตล้อไปกับโลกออนไลน์
ทั้งนี้กองทุนจะลงทุนในกองทุนต่างประเทศต่าง ๆ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ทรัพย์สินที่กองทุน PWIN ลงทุน
ทรัพย์สิน 5 อันดับแรกที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุดของกองทุน PWIN
ที่มา: ข้อมูลกองทุนรายเดือน ณ วันที่ 30 ก.ค. 2564
จากภาพจะเห็นได้ว่ากองทุน PWIN มีการลงทุนในกองทุนต่างประเทศต่าง ๆ มากมาย โดยในส่วนถัดไปจะขอเน้นเจาะไปที่หุ้นของกองทุน Ark Innovation ETF ซึ่งมีสัดส่วนเป็นหลัก
ตัวอย่างบริษัทที่กองทุน Ark Innovation ETF ลงทุน:
- บริษัทด้าน Electric Vehicles (EV): Tesla – บริษัท ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังผู้ครองสัดส่วนตลาดยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าถึง 29% และเป็นอันดับ 1 เมื่อไตรมาส 1 ปี 2020 ในขณะที่ เคธี วูด ผู้เชื่อมั่นในการเติบโตของ Tesla ได้ให้เป้าราคาของหุ้นตัวนี้ไว้ถึง 3,000 เหรียญ ในอนาคตโดยเชื่อว่าเหล่านักวิเคราะห์ในตอนนี้มองมูลค่าของ Tesla ในกรอบเวลาที่สั้นเกินไป และเปรียบเทียบ Tesla เป็นดั่ง Apple เพชรเม็ดงามแห่งวงการเทคโนโลยีทั้งในอดีตและปัจจุบัน
- บริษัทด้าน Internet Innovation : Roku – บริษัท เจ้าของอุปกรณ์สตรีมมิ่งจากอินเทอร์เน็ตไปยังทีวี เชื่อมโยงเนื้อหาทั้งใน Netflix, HBO Now, Amazon Video หรือ Google Play เข้าไว้ด้วยกัน ในราคาที่ถูกกว่า มีจำนวนผู้ใช้ถึง 38.9 ล้านราย และมีจำนวนเติบโตแบบก้าวกระโดดที่ 37% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
- บริษัทด้าน Biotechnology: Teladoc – บริษัท เจ้าของผู้ให้บริการทางการแพทย์แบบออนไลน์ ปรึกษา และวินิจฉัย ผ่านแพทย์ได้โดยตรงและทันที มีลูกค้าเป็นนายจ้างที่ติดอันดับของ Fortune 500 มากกว่า 40% มีลูกค้าชื่อดังอย่าง UnitedHealth บริษัท ประกันสุขภาพที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของสหรัฐฯ และ Johns Hopkins วิทยาลัยการแพทย์ชื่อดังของสหรัฐฯ
ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน PWIN
ผลการดำเนินงานของกองทุน PWIN
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ที่มา: https://www.finnomena.com/fund/PWIN/performance
มีผลตอบแทนย้อนหลังโดดเด่นเป็นอย่างมากถึงแม้จะจัดตั้งมาได้ไม่นานนัก โดยผลตอบแทนย้อนหลังช่วง 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ถือได้ว่าเหนือกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยในกลุ่มทุกช่วงเวลา!
ความเสี่ยงของกองทุน PWIN
กองทุน PWIN จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6 โดยมีความเสี่ยงที่ควรทราบ ดังนี้
- ความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวในเซ็กเตอร์นวัตกรรมต่าง ๆ
- ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ค่าธรรมเนียมของกองทุน PWIN
- ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): 1.07%
- ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน (Back-end Fee): ปัจจุบันไม่เรียกเก็บ
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 1.6036%
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวม: สูงสุดไม่เกิน 3.950%
ข้อมูลจาก PWIN Fund Factsheet ณ วันที่ 30 ก.ค. 2564
สรุปจุดเด่นกองทุน PWIN
- ลงทุนได้อย่างยืดหยุ่นในหุ้นนวัตกรรม พอร์ตการลงทุนมีการกระจายการลงทุนในรูปแบบที่หลากหลาย ชี้ให้เห็นถึงการลงทุนแนวเติบโตอย่างสมดุล
- สัดส่วนล่าสุด มีการลงทุนทั้งในหุ้น Growth แบบหนัก ๆ รวมไปถึงหุ้นเทคเชิงรับอย่าง Data Center สร้างสมดุลให้กับพอร์ตโดยรวม หรือจะเป็นกลุ่มหุ้นแนวผสมผสานทั้ง “รุก” และ “รับ” อย่าง Cybersecurity
- เป็นกองทุนแนว Active เน้นจัดการให้ผลการดำเนินงานโดดเด่น เหมาะสำหรับนักลงทุนสายซิ่ง ผู้ชื่นชอบการลงทุนในหุ้นเติบโต
- มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่นจากการลงทุนในหุ้น ที่ล้อไปกับนวัตกรรมของโลกในอนาคต
P-CGREEN
กองทุน P-CGREEN หรือ Phillip China Green Energy and Environment จากบลจ. ฟิลลิป (PAMC)
กลยุทธ์การลงทุน
เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ KraneShares MSCI China Clean Technology Index ETF ซึ่งเป็นดัชนีที่เน้นการลงทุนใน พลังงานทางเลือก (Alternative Energy), การพัฒนาและการจัดการทรัพยากรน้ำ อย่างยั่งยืน (Sustainable Water), การออกแบบอาคารที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Green Building), การป้องกันมลพิษ (Pollution Prevention) และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Energy Efficiency) โดยมีธีมหลัก ๆ ของการลงทุน ดังนี้
- Alternative Energy – ธีมพลังงานทางเลือกต่าง ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งไมไ่ด้มีดีแค่ด้านรักษ์โลกเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยลดต้นทุนอีกด้วย
- Sustainable Water – เป็นธีมลงทุนในบริษัท ที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำและคุณภาพน้ำ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของทุกชีวิตและเป็นปัญหาที่ควรคำนึงถึงของประเทศที่อุตสาหกรรมกำลังเฟื่องฟูอย่างจีน
- Green Building – เป็นธีมลงทุนในบริษัท ที่มีการสนับสนุนการทำงานตามมาตรฐานอาคารที่ยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจเห็นได้ในบริษัทยุคใหม่
- Pollution Prevention – เป็นธีมการลงทุนในบริษัท ที่เน้นการป้องกันมลพิษ ลดของเสีย หรือการรีไซเคิล
- Electric Vehicles – หนึ่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และมีสัดส่วนน้ำหนักหุ้นในกองทุนที่ค่อนข้างสูง รถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมโตแรง และอาจเรียกได้ว่าเป็นเมกะเทรนด์แห่งโลกอนาคตอย่างแท้จริง
ทั้งนี้กองทุนจะลงทุนในกองทุน KraneShares MSCI China Clean Technology Index ETF (กองทุนปลายทาง) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัด (Passive Management)
ทรัพย์สินที่กองทุน P-CGREEN ลงทุน
กองทุน P-CGREEN นั้นลงทุนในดัชนี KraneShares MSCI China Clean Technology Index ETF เป็นหลักซึ่งเป็นดัชนีที่เน้นลงทุนในบริษัทรักษ์โลกในจีน
ตัวอย่างบริษัทที่กองทุน P-CGREEN ลงทุน:
- บริษัทด้าน Electric Vehicles (EV): NIO – ผลิตรถยนต์และบุกเบิกตลาดรถไฟฟ้าระดับพรีเมียมในจีนที่มีมูลค่าเป็นอันดับที่ 4 ของโลก และยังถูกขนานนามว่า เป็น Tesla Killer
- บริษัทด้าน Electric Vehicles (EV) : BYD – อีกหนึ่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในจีนเริ่มต้นมาจากการผลิตแบตเตอรี่ ดังนั้นความเชี่ยวชาญดังกล่าวสามารถนำมาใช้ต่อยอดเป็นความได้เปรียบในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดได้เป็นอย่างดี
- บริษัทด้าน Electric Vehicles (EV): LI AUTO – บริษัท ผู้พัฒนานวัตกรรมรถยนต์พลังงานสะอาดในจีน เริ่มต้นและจบงานได้ด้วยตนเองตั้งแต่การออกแบบ พัฒนา ผลิต และขาย และเป็นบริษัทผู้ริเริ่มการขายรถยนต์ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ๆ ในจีน
ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน P-CGREEN
ผลการดำเนินงานของกองทุน P-CGREEN
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ที่มา: https://www.finnomena.com/fund/P-CGREEN/performance
มีผลตอบแทนย้อนหลังที่โดดเด่น แม้กองทุนจะจัดตั้งได้ไม่นานนัก
ความเสี่ยงของกองทุน P-CGREEN
กองทุน P-CGREEN จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6 โดยมีความเสี่ยงที่ควรทราบ ดังนี้
- ความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีพลังงานสะอาดแบบเน้น ๆ
- ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- ความเสี่ยงจากการลงทุนแบบกระจุกตัวในประเทศจีน
ค่าธรรมเนียมของกองทุน P-CGREEN
- ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): 1.50%
- ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน (Back-end Fee): ปัจจุบันไม่เรียกเก็บ
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 1.6050%
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวม: สูงสุดไม่เกิน 3.9500%
ข้อมูลจาก P-CGREEN Fund Factsheet ณ วันที่ 30 ก.ค. 2564
สรุปจุดเด่นกองทุน P-CGREEN
- เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในธีมเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งธีมแห่งอนาคตที่มีความสำคัญกับโลกเราจึงน่าจะเติบโตต่อไปได้
- เป็นกองทุนแนว Passive เน้นสร้างผลตอบแทนตามดัชนีหลัก เหมาะสำหรับคนที่ชอบความไม่หวือหวามากนัก
- มีสัดส่วนหุ้นหลักในกลุ่ม Electric Vehicles ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมมาแรง และมีทิศทางที่เป็นไปได้
บลจ.บางกอกแคปปิตอล (BCAP)
BCAP-CLEAN
กองทุน BCAP-CLEAN หรือ BCAP Clean Innovation Fund จากบลจ.บางกอกแคปปิตอล (BCAP)
กลยุทธ์การลงทุน
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ โดยกองทุนปลายทางมีการกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารของบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับนวัตกรรมเพื่อช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน เช่น
- Clean Energy – เทคโนโลยีด้านระบบการผลิตพลังงานสะอาด เช่น แผงโซล่าเซลล์ กังหันลม เชื้อเพลิงชีวภาพ และระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยให้การบริหารพลังงานสะอาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงจากการเปลี่ยนแปลงแหล่งพลังงานแบบเดิมไปสู่พลังงานสะอาดเพื่อแก้ปัญหาก๊าซเรือนกระจกและในปัจจุบันการใช้พลังงานสะอาดทั่วโลกก็ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยคาดการณ์ว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ ๆ จะมาจากพลังงานสะอาดทั้งหมดภายในปี 2060
- Electric Vehicles (EV) – เทคโนโลยีด้านยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ เนื่องจากการใช้รถแบบเดิมเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันดับต้น ๆ และปัจจุบันผู้คนทั่วโลกต่างหันมาใช้รถ EV แทนรถแบบเดิมกันมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่า รถยนต์ทั่วโลกจะเปลี่ยนมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2060
- Circular Economy & Waste Management – เทคโนโลยีด้านการบริหารระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ให้เกิดการสูญเสียให้น้อยที่สุดและลดปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ง่ายต่อการรีไซเคิล (Recycle) บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ การบริหารทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
- Energy Storage – เทคโนโลยีด้านการกักเก็บพลังงาน ทั้งระบบเก็บขนาดใหญ่ที่ใช้ในอุตสาหกรรมและการผลิตไฟฟ้า รวมไปถึงแบตเตอรี่ในยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งเติบโตไปพร้อมกับการใช้พลังงานสะอาดในทุกอุตสาหกรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ทั้งนี้กองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมข้างต้นตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ทรัพย์สินที่กองทุน BCAP-CLEAN ลงทุน
ทรัพย์สิน 5 อันดับแรกที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุดของกองทุน BCAP-CLEAN
ที่มา: ข้อมูลกองทุนรายเดือน ณ วันที่ 30 ก.ค. 2564
ตัวอย่างบริษัทที่คาดว่ากองทุน BCAP-CLEAN จะลงทุน:
- บริษัทด้าน Clean Energy: JinkoSolar Holding – ผู้จัดจำหน่ายและให้คำปรึกษาแบบครบวงจรด้านโซล่าเซลล์ทุกภูมิภาคและทั่วโลก และเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมโซล่าเซลล์
- บริษัทด้าน Electric Vehicles (EV): NIO – ผู้ผลิตรถยนต์และบุกเบิกตลาดรถไฟฟ้าระดับพรีเมียมในจีนที่มีมูลค่าเป็นอันดับที่ 4 ของโลก และยังถูกขนานนามว่า เป็น Tesla Killer
- บริษัทด้าน Circular Economy & Waste Management: Ecolab – ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับความสะอาด สุขอนามัย การจัดการคุณภาพน้ำ พลังงานและการให้บริการมาเป็นเวลากว่า 90 ปี
- บริษัทด้าน Energy Storage: Contemporary Amperex Technology – ผู้พัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนครบวงจร โดยมียอดขายแบตเตอรี่ของ EV เป็นอันดับ 1 ทั่วโลก 4 ปีซ้อน
ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน BCAP-CLEAN
ผลการดำเนินงานของพอร์ตจำลองกองทุน BCAP-CLEAN
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ที่มา: https://knowledge.bualuang.co.th/knowledge-base/bcapclean/
เนื่องจากกองทุน BCAP-CLEAN เป็นกองทุนน้องใหม่ของทางบลจ. BCAP ที่เพิ่งจดทะเบียนกองทุนไปเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2564 จึงยังไม่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังให้ดูมากนัก จึงขอหยิบข้อมูลผลการดำเนินงานพอร์ตจำลองของกองทุน BCAP-CLEAN มานำเสนอให้ได้เห็นภาพกัน จากรูปจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 3 ปี หรือ 5 ปี พอร์ตจำลองของกองทุน BCAP-CLEAN ก็สามารถเอาชนะดัชนีได้อย่างสบาย ๆ อาจจะมีบางช่วงที่แพ้ดัชนี MSCI ACWI ไปบ้าง แต่ในภาพรวมก็ถือว่าทำผลการดำเนินงานไปได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
ความเสี่ยงของกองทุน BCAP-CLEAN
กองทุน BCAP-CLEAN จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6 โดยมีความเสี่ยงที่ควรทราบ ดังนี้
- ความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวในประเทศสหรัฐฯ และจีน และหมวดอุตสาหกรรม Industrial และ Consumer Discretionary
- ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ค่าธรรมเนียมของกองทุน BCAP-CLEAN
- ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee): 1.070%
- ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน (Back-end Fee): ปัจจุบันไม่เรียกเก็บ
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 1.070%
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวม: สูงสุดไม่เกิน 2.675%
ข้อมูลจาก BCAP-CLEAN Monthly Fund Update ณ วันที่ 30 ก.ค. 2564
สรุปจุดเด่นกองทุน BCAP-CLEAN
- เน้นลงทุนในหุ้นนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมทั่วโลก เช่น Clean Energy, Energy Storage, EV, Circular Economy & Sustainable Food
- บริหารแบบ Dynamic Fund of Funds เพิ่มความยืดหยุ่น ปรับพอร์ตได้ตามสภาวะตลาด
- เน้นลงทุนในบริษัท Pure-play โดยส่วนใหญ่เป็น Mid-Small Cap
- ลงทุนได้ทั้งกองทุนที่บริหารแบบ Active และ Passive (ETF) กระจายหลักทรัพย์ประมาณ 400 หลักทรัพย์
บลจ.เอ็กซ์สปริง (XSpring)
I-SEQS
กองทุน I-SEQS หรือ Innotech Sustainable Thai Equity Systematic Fund จากบลจ.เอ็กซ์สปริง (XSpring)
▶︎ I-SEQS-RA, I-SEQS-RD, I-SEQS-ASSF
กลุยทธ์การลงทุน
ลงทุนในตราสารทุนซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ/หรือตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (MAI) ที่มีการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่ดี โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
กองทุนเน้นสร้างผลตอบแทนมากกว่า SET TRI ในระยะยาว โดยมี รายละเอียดของการคัดเลือกตราสารทุนที่สามารถลงทุนได้และกระบวนการลงทุน ดังนี้
- คัดเลือกกลุ่มหุ้นที่สามารถลงทุนได้ (Stock Universe) จากปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยสภาพคล่องของหุ้น และหลักการของ สหประชาชาติที่มีเป้าหมายในการกระตุ้นให้บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกหันมาใช้นโยบายในการดำเนินกิจการซึ่งมีความยั่งยืนและ รับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น (UN Global Compact) ซึ่งมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง 4 ประการ คือ 1) สิทธิมนุษยชน 2) แรงงาน 3) สิ่งแวดล้อม และ 4) การต่อต้านคอรัปชั่น โดยอิงข้อมูลจากรายงานของบริษัทจดทะเบียน ข่าว และกิจกรรมขององค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) โดยระบบการลงทุนจะประเมินหุ้นแต่ละตัวทุกวันจากข้อมูลที่เข้ามาในแต่ละวัน และจะทำการทบทวน Stock Universe
- กำหนดหุ้นที่จะลงทุน (Stock Selection) ในแต่ละช่วงเวลาที่ลงทุน โดยคัดเลือกจากปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นและปัจจัยพื้นฐานของหุ้น เช่น งบการเงิน ผลประกอบการ และปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งหุ้นที่เลือกลงทุนจะต้องมีคะแนนรวมในเกณฑ์ดี โดยมีการทบทวนรายชื่อหุ้นที่ลงทุนทุกเดือน
- กำหนดสัดส่วนของหุ้นที่จะลงทุนโดยประเมินจากปัจจัยเสี่ยงด้านมหภาค เช่น ราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน ดอกเบี้ย และอื่น ๆ ที่จะมีผลต่อปัจจัยพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัว และคะแนนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment Social Governance: ESG)
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน: มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
หุ้นที่กองทุน I-SEQS ลงทุน
Top 5 Holdings ของกองทุน I-SESQ-RA (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ค. 2564)
ที่มา: รายงานสถานะการลงทุนเดือน ก.ค. 2564 ของกองทุน I-SEQS-RA
- บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) (6.33%) – บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ภายใต้ 18 ตราสินค้าทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม, ผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำผลไม้ เครื่องดื่มแต่งกลิ่นผลไม้, ผลิตภัณฑ์ประเภทผงพร้อมชง เพื่อสุขภาพ และ ความงาม, ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มปรุงสำเร็จพร้อมดื่มอื่น ๆ และผลิตภัณฑ์ขนมเพื่อสุขภาพ
- บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) (5.81%) – ธุรกิจด้านรับประกันวินาศภัยอันได้แก่ การประกันอัคคีภัย ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง ประกันภัยยานยนต์ ประกันภัยเบ็ดเตล็ด รวมทั้งการรับประกันภัยต่อ
- บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (5.72%) – ผลิตและส่งออกพลาสติกฟิล์มใช้สำหรับบรรจุภัณฑ์ (Packaging) อุตสาหกรรม (Industrial) และอุปกรณ์ไฟฟ้า (Electrical)
ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน I-SEQS
ผลการดำเนินงานของกองทุน I-SEQS-RA (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ก.ย. 2564)
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ที่มา: finnomena.com/fund/I-SEQS-RA/performance
ค่าสถิติสำคัญและผลการดำเนินงาน (SET) (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ก.ย. 2564)
ที่มา: https://marketdata.set.or.th/mkt/marketsummary.do
มาดูกันในฝั่งผลตอบแทนย้อนหลังกันบ้าง จากรูปด้านบนจะเห็นได้ว่าผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน กองทุน I-SEQS-RA ทำไปได้ 14.05% และ 1 ปีทำไปได้ 25.84% ซึ่งหากเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยในกลุ่มแล้วถือว่าชนะไปได้แบบสวย ๆ ยิ่งไปกว่านั้น หากเปรียบเทียบกับดัชนีอ้างอิงอย่าง SET TRI แล้ว กองทุน I-SEQS ก็สร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะนับตั้งแต่ต้นปี 2564 ไปจนถึงวันที่ 3 ก.ย. 2564 กองทุนสร้างผลตอบแทนได้ 25.84% มากกว่าดัชนีอ้างอิง (SET TRI) ที่ทำไปได้ 13.87%
ความเสี่ยงของกองทุน I-SEQS
กองทุน I-SEQS จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 6 โดยมีความเสี่ยงที่ควรทราบ ดังนี้
- ความเสี่ยงจากความผันผวนของผลการดำเนินงาน (SD): 15-25%
ค่าธรรมเนียมของกองทุน I-SEQS
- ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee) และ Switching-in: 1.070%
- ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน (Back-end Fee) และ Switching-out: ปัจจุบันไม่เรียกเก็บ
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ: 1.605%
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวม: 1.6960% (ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น)
ข้อมูลจาก I-SEQS-RA Fund Factsheet ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2564
สรุปจุดเด่นกองทุน I-SEQS
- เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านธรรมาภิบาล (ESG) แบบมีการกระจายการลงทุน
- บริหารโดยใช้การวิเคราะห์ด้านปริมาณ (Quantitative Analysis) เพื่อลด Human Bias
- สร้างผลตอบแทนได้โดดเด่น โดยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 3 ก.ย. 2564 กองทุนมีผลตอบแทน 25.84% มากกว่าดัชนีอ้างอิง (SET TRI) 13.87%
เขียนโดย FINNOMENA Admin
ข้อมูลอ้างอิงกองทุน PWIN
- https://asia.nikkei.com/Companies/BYD-Co.-Ltd#:~:text=BYD%20is%20a%20major%20Chinese,the%20automobile%20business%20in%202003.&text=Leveraging%20its%20strength%20as%20a,and%20plug%2Din%20hybrid%20vehicles
- https://static1.squarespace.com/static/5b763853266c075695c73c0a/t/611b3864f0378e16d31c0f3e/1629173863595/AUG21_PCGOnepage_TH.pdf
- https://static1.squarespace.com/static/5b763853266c075695c73c0a/t/6124e79c60ae612d68dccf85/1629808543617/P-CGREEN_factsheet_m202107.pdf
ข้อมูลอ้างอิงกองทุน P-CGREEN
- https://static1.squarespace.com/static/5b763853266c075695c73c0a/t/6119ce017d0b7a3246987b22/1629081097927/PWIN_Factsheet_202106.pdf
- https://static1.squarespace.com/static/5b763853266c075695c73c0a/t/6124e7e64a6a72173643e0bc/1629808617714/PWIN_factsheet_m202107.pdf
- https://static1.squarespace.com/static/5b763853266c075695c73c0a/t/611b38a4f7dad950b3dd253a/1629173930129/AUG21_PWINOnepage_TH.pdf
ข้อมูลอ้างอิงกองทุน BCAP-CLEAN
- https://www.bangkokbank.com/th-TH/Personal/Save-And-Invest/Mutual-Funds/Foreign-Investment-Funds/BCAP-CLEAN
- https://knowledge.bualuang.co.th/knowledge-base/bcapclean/
- https://www.bangkokbank.com/-/media/files/personal/save-and-invest/mutual-funds/fund-information/bcap-clean/bcap-clean_monthly_th.pdf?la=th-th&hash=CC784FC8E17DC37F963BBF2256F5AFF87F55C74E
ข้อมูลอ้างอิงกองทุน I-SEQS
- https://www.xspringam.com/mutualfunds/detail/9
- https://www.xspringam.com/uploads/files/1628478200-Lzp5G.pdf
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”