News Update: จับตา 5 ประเด็นสำคัญใน ‘แจ็กสันโฮล’ หัวข้อ ‘นโยบายเศรษฐกิจมหภาคภายใต้เศรษฐกิจที่เหลื่อมล้ำ’ Fed เตรียมขึ้นดอกเบี้ย-ลดวงเงิน QE หรือไม่

🏦 ประเด็นที่ 1: การประชุมแบบออนไลน์ 2 ปี ติดต่อกัน

การประชุมแจ็กสันโฮล เป็นชื่อเรียกของงานสัมนาวิชาการประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มี Fed สาขาแคนซัสซิตี้ เป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นครั้งเมื่อปี 1978 และจัดต่อเนื่องทุกปีจนถึงปัจจุบัน สาเหตุที่การประชุมสัมนาวิชาการประจำปีนี้ถูกเรียกว่าการประชุมแจ็กสันโฮล เนื่องจากงานี้จัดขึ้นที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิ่ง ของสหรัฐฯ มีชื่อเสียงด้านการเป็นเมืองตากอากาศ รายล้อมด้วยหุบเขาและธรรมชาติที่สวยงาม

การประชุมประจำปีของ Fed ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 26-28 ส.ค. ที่เมืองแจ็กสันโฮลครั้งนี้ ได้เปลี่ยนรูปแบบการประชุมแบบพบหน้ากันมาเป็นรูปแบบออนไลน์แทน หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น จากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลต้า

Esther George ประธาน Fed สาขาแคนซัสซิตี้ และประธานการจัดประชุมในครั้งนี้ ชี้แจงว่าต้องการลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมงานเป็นหลัก

ที่ผ่านมา การประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสันโฮล เป็นการรวมตัวของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง และนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำทั่วโลก เพื่อพิจารณาการเปลี่ยนแปลงของนโยบายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  

🏦 ประเด็นที่ 2: หัวข้อการประชุม ‘Macroeconomic Policy in an Uneven Economy’

หัวข้อการประชุมประจำปีนี้ คือ ‘Macroeconomic Policy in an Uneven Economy’ หรือ นโยบายเศรษฐกิจมหภาคภายใต้เศรษฐกิจที่เหลื่อมล้ำ โดยการสัมนาจะเริ่มขึ้นหลังจากที่ Jerome Powell ประธาน Fed กล่าวสุนทรพจน์เปิดงานในหัวข้อ ‘มุมมองเศรษฐกิจในอนาคต’ ในเวลาประมาณ 21:00 ของ วันที่ 26 ส.ค. ตามเวลาประเทศไทย ผ่านทาง Youtube ของ Kansas City Fed

🏦 ประเด็นที่ 3: Fed อาจไม่พูดถึงการปรับลดวงเงิน QE ในตอนนี้ แต่จะรอประกาศในการประชุมเดือน ก.ย.

ประเด็นสำคัญที่นักลงทุนจับตามอง คือ การกล่าวสุนทรพจน์ของ Jerome Powell ประธาน Fed เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงินในมาตราการ QE ซึ่งปัจจุบัน Fed มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาล และสินทรัพย์อื่นรายเดือนที่มูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์

เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าถึงเวลาแล้วที่ Fed อาจเริ่มลดการผ่อนคลายนโยบายการเงินลง

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าอาจไม่มีการพูดถึงการเปลี่ยนแปลงมาตรการใดๆ ในการประชุมครั้งนี้ และคาดว่า Fed จะประกาศแผนอย่างเป็นทางการในการประชุมเดือน ก.ย. มากกว่า

🏦 ประเด็นที่ 4: ประเด็นสำคัญในการประชุมครั้งนี้ อาจเป็นการพูดถึงความเหลื่อมล้ำของรายเป็นหลัก

Steven Major จาก HSBC กล่าวว่า การอภิปรายเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำของรายได้เป็นอีกประเด็นสำคัญ ที่อาจส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตร เพราะ ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ คือ หนึ่งในตัวขับเคลื่อนโครงสร้างระยะยาว ที่มีส่วนทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ในระดับต่ำมาก

หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงการประชุมมาสู่แบบออนไลน์ การประชุมครั้งนี้จะกลายเป็นการอภิปรายเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจบนเขตที่มั่งคั่งที่สุดในสหรัฐฯ ณ เมืองแจ็กสันโฮล เขตเทตัน

รายงานจาก EIG แสดงให้เห็นว่า ช่องว่างระหว่างรายได้ของเขตที่มีรายได้ต่อหัวต่ำสุดและสูงสุด เพิ่มขึ้น 6 เท่า ระหว่างปี 1990 และ 2019 เนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเขตที่เป็นศูนย์กลางทางการเงิน, เทคโนโลยี, เหมืองแร่ และ สถานที่ท่องเที่ยว

ข้อมูลจาก Fed ชี้ให้เห็นว่า มีชาวอเมริกันเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ถือครองทรัพย์สินนอกเหนือจาก บ้าน, รถยนต์ และเงินออมเพื่อการเกษียณ โดยมีเพียง 15% ของครัวเรือนที่ถือครองหุ้น และมีเพียง 13% ที่ถือครองหุ้นในธุรกิจหรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยอื่นๆ

🏦 ประเด็นที่ 5: การประชุม Jackson Hole จะส่งผลต่อสินทรัพย์ต่างๆ อย่างไร?

นักวิเคราะห์มองว่าท่าทีของ Fed อาจทำให้ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้มีความตึงเครียด เพราะก่อนหน้านี้ในเดือน ก.ค. การประชุมกรรมการกำกับนโยบายการเงิน (FOMC) ของ Fed ที่รายงานว่าสมาชิก Fed ส่วนใหญ่เห็นด้วยต่อการลดวงเงิน QE ภายในสิ้นปีนี้ ได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง

Randall Kroszner อดีตเจ้าหน้าที่ Fed แสดงความกังวลว่าการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นอาจทำให้ตลาดปั่นป่วน เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในช่วงปี 2013 ที่เกิดแรงเทขายในตลาดตราสารหนี้ หลัง Fed ปรับลดวงเงิน QE

อย่างไรก็ตาม Michael Skordeles นักกลยุทย์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ระดับมหภาค จาก Truist Advisory Services มองว่า สถานการณ์ในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อปี 2013 โดยเฉพาะอุตสาหกรรมต่างๆ ที่แข็งแกร่งขึ้นมาก

Michael Skordeles กล่าวว่า ความตื่นตระหนกในระยะสั้นส่งผลต่อเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อย โดยคาดว่าต่อให้ Fed จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ยังคงมีแนวโน้มว่าจะอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และเชื่อว่า Fed จะดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว

อ้างอิง: https://www.ft.com/content/84cbd691-493c-4574-ba5d-79408ae9d971

https://www.cnbc.com/2021/08/20/fed-officials-will-seek-to-avoid-a-tantrum-as-they-keep-taper-talk-going-at-jackson-hole.html

https://edition.cnn.com/2021/08/22/investing/stocks-week-ahead/index.html 

https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-08-20/kansas-city-fed-shifts-jackson-hole-symposium-to-virtual-event?srnd=fixed-income&sref=e4t2werz

https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-08-18/u-s-wealth-gap-rises-with-jackson-hole-coming-at-the-top?sref=e4t2werz 

https://www.kansascityfed.org/newsroom/2021-news-releases/Kansas-City-Fed-to-host-Economic-Policy-Symposium-online/

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน
TSF2024