FINNOMENA The Opportunity Morning Brief 13/08/2021

“จีนเปิดแผนดูแลเศรษฐกิจ 5 ปี ชี้มาตรการคุมเข้มธุรกิจยังมีอีก”

ภาพความเคลื่อนไหวล่าสุดของตลาดหุ้นทั่วโลก 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ Dow Jones +14.88 จุด (+0.04%) S&P500 +13.14 จุด (+0.30%) Nasdaq +51.10 จุด (+0.35%) Small Cap 2000 -5.57 จุด (-0.25%) VIX index อยู่ที่ 15.59 (-2.93%) Dow Jones และ S&P500 ทำ All time high

ตลาดหุ้นยุโรป Euro Stoxx 50 +20 จุด (+0.48%) Dax เยอรมัน +111.42 จุด (+0.70%) CAC 40 ฝรั่งเศส +24.48 จุด (+0.36%)

ตลาดหุ้นเอเชียล่าสุด (เช้าวันที่ 13 ส.ค. 2564) ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวบวกได้เล็กน้อย ตลาดหุ้นจีน CSI 300 และตลาดหุ้นฮ่องกงเคลื่อนไหวในแดนลบ และ SET Index ล่าสุดบวกประมาณ 3 จุด

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (เช้าวันที่ 13 ส.ค. 2564) ราคาทองคำ 1,756.95 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Silver ราคา 23.21 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบ WTI 68.64 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Brent 70.89 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Bond Yield สหรัฐฯ 10 ปี อยู่ที่ 1.35

ราคา Cryptocurrency (เช้าวันที่ 13 ส.ค. 2564) Bitcoin 44,951.7 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Ethereum 3,094.83 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Dogecoin 0.255749 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ Binance Coin 393.09 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ

ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 375,000 ราย สอดคล้องกับประมาณการ และลดลงต่อเนื่อง 3 อาทิตย์ติดต่อกัน

ตัวเลข CPI เดือนกรกฎาคม ออกมาเติบโต +5.4% YoY และเติบโต +0.5% MoM หากเทียบกับเดือนมิถุนายน มีการเติบโตที่ชะลอลง ถ้าตัดราคาอาหารสดและพลังงานเติบโต +0.3% MoM รายสินค้าพบว่าเครื่องแต่งกายสตรีมีการเติบโตสูงที่สุด ในหลายอุตสาหกรรมพบว่ารายได้ที่แท้จริงมีการติดลบ เนื่องจากรายได้เติบโตไม่ทันเงินเฟ้อ โดยมีเพียงแค่ภาคบริการ ที่ยังมีรายได้ที่แท้จริงเติบโต

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 สัปดาห์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021

GDP ไตรมาสที่ 2 ของอังกฤษเติบโต 4.8% ต่ำกว่าที่คาดที่ 5%

ตลาดหุ้นเกาหลีปรับตัวลดลง 6 วันติดต่อกัน ค่าเงินวอนอ่อนค่า และมีการขายออกมาของนักลงทุนต่างชาติ

จีนเปิดแผนดูแลเศรษฐกิจ 5 ปี ชี้ให้เห็นว่ามาตรการคุ้มเข้มธุรกิจยังอาจจะมีออกมาอีกได้

ค่าขนส่งทางเรือไปยังเมืองสำคัญของโลกปรับตัวสูงขึ้นนับตั้งแต่เกิดวิกฤติ COVID-19

สัดส่วน MSCI China เทียบกับ MSCI World ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใกล้เคียงกับปี 2008 แสดงให้เห็นถึงความ underperform  ต่อหุ้นโลกอย่างมีนัยยะ สาเหตุหนึ่งมาจากที่ EPS เติบโตได้น้อยกว่า S&P500

Disney ประกาศผลประกอบการดีกว่าที่คาดในทุกธุรกิจ รายได้ 17,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (คาดการณ์ 16,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ) EPS 80 cent (คาดการณ์ 0.55 cent) ผู้ใช้งานเติบโตเท่าตัว อยู่ที่ 116 ล้านคน และอาจเติบโตอีกเท่าตัวประมาณปี 2024

Airbnb รายได้เติบโต 300% และยังพยายามพัฒนาบริการต่อเนื่อง แต่ราคาหุ้นปรับตัวลดลง จากความกังวลเรื่องสถานการณ์ COVID-19 ตัวเลขการจองอยู่ที่ 83 ล้านครั้ง โตขึ้น +29% QoQ และโตเกือบ +200% YoY ค่าโฆษณา +175% YoY ตัวเลขคาดการณ์รายได้ไตรมาส 4 ซึ่งปกติเป็นไตรมาสท่องเที่ยว คาดการณ์ลดลงจากไตรมาส 3

Hacker ที่ทำการโจรกรรม Poly Network ได้ทยอยทำการคืนเงินแล้วส่วนใหญ่ โดยเผยว่าทำไปเพื่อความสะดวก

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในรายใหม่ไทยอยู่ที่ 23,418 ราย (ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23,030 ราย จากในเรือนจำ 184 ราย) เสียชีวิตเพิ่ม 184 ราย หายป่วยกลับบ้าน 20,083 ราย ผู้ป่วยสะสม 863,189 ราย หายป่วยสะสม 643,884 ราย

The Opportunity

ผลตอบแทนกองทุนหุ้นอินเดียย้อนหลัง 1 ปี 3 อันดับแรก – TISCOINA-A +59.86%, B-BHARATA +58.94% และ ASP-INDIA +55.69%

ผลตอบแทน YTD. อันดับแรก B-BHARATA +34.24%, TISCOINA-A +33.68%, และ ABIG +25.26%

ในส่วนของ 3D Diagram B-BHARATA โดดเด่นสุด

B-BHARATA เป็น Feeder Fund เน้นลงทุนใน RAMS Equities Portfolio Fund – India Equities Portfolio Fund

Sector หลัก – Financial 29%, Information Technology 18%, Materials 12%, Industrials 10%, Consumer Discretionary และ Health Care 7%

กองทุนหลักเน้นลง 65% ในหุ้นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง 21% และขนาดเล็ก 12%

หุ้น 5 อันดับแรก – Infosys Ltd. 8.8%, ICIC Bank Ltd. 4.6%, TATA Steel 3.9%, Reliance Industries Ltd. 3.9% และ HDFC Bank Limited 3.3%

ผลการดำเนินงานของกองทุนหลักย้อนหลัง 1, 3 และ 5 ปี ดีกว่า MSCI India

ผลการดำเนินงานกองทุนหลักเทียบกับ BSE Sensex ในรอบ 1 ปี โดดเด่นกว่า 57.45% VS 43.16%

TSF2024