Kelvin Tay หัวหน้าฝ่ายการลงทุนระดับภูมิภาคจาก UBS Global Wealth Management เตือน นักลงทุนให้ระมัดระวังการช้อนซื้อหุ้นจีนที่ปรับตัวลงมาในช่วงนี้ เพราะมีแนวโน้มปรับลงอีก และตอนนี้ยังไม่ใช่จุดต่ำสุดของตลาดหุ้นจีน
ปลายสัปดาห์ก่อน ดัชนี Hang Seng ปรับตัวลงกว่า 8% ในเวลาเพียง 2 วัน ทำให้ตลาดหุ้นจีนมีผลการดำเนินงานแย่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นับตั้งแต่ต้นปี
Kelvin Tay กล่าวว่า นักลงทุนสถาบันหลายแห่งกำลังประเมินความเสี่ยงในตลาดหุ้นจีนอีกครั้ง หลังกฎระเบียบทางการจีนเริ่มมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยี และโรงเรียนกวดวิชามากขึ้น
การประเมินความเสี่ยงนี้อาจใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ ก่อนที่เหล่านักลงทุนสถาบันจะตัดสินใจว่าจะลด หรือ เพิ่มการสะสมหุ้นจีน โดยมีแนวโน้มที่จะลดน้ำหนักการลงทุนมากกว่า เพราะมองว่านี่ยังไม่ใช่จุดต่ำสุดของตลาด
Kelvin Tay ชี้ว่า การปราบปรามด้านกฎระเบียบของจีน เกิดขึ้นพร้อมกับโอกาสที่เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่
การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปีนี้มีแนวโน้มที่ดี จากทั้งฝั่งสหรัฐฯ ที่เศรษฐกิจเติบโต 7% และฝั่งยูโรโซนที่เศรษฐกิจฟื้นตัว 4.3% ซึ่งมีแนวโน้มที่จะดึงให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตามไปด้วย
Kelvin Tay มองว่ามี 3 ตัวเร่งที่จะช่วยลดความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบของทางการจีนได้
ตัวเร่งแรกอาจเกิดในสัปดาห์นี้ หรือหลังการประชุมคณะกรรมการกรมการเมือง แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Politburo) เดือน ก.ค. โดยการประชุมดังกล่าวจะถูกนักลงทุนจับตามองอย่างใกล้ชิดเพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับกฎระเบียบเพิ่มเติม
ตัวเร่งถัดมาคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่ง Kelvin Tay มองว่าแนวโน้มดังกล่าวเป็นไปได้ยาก แต่หากเศรษฐกิจชะลอตัวลง ทางการจีนจำเป็นต้องยอมลดความเข้มงวดด้านกฎระเบียบลง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
และตัวเร่งสุดท้ายที่เป็นไปได้ยากสุด คือการที่ทั้ง สหรัฐฯ และจีน จะมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นในชั่วข้ามคืน ซึ่งมีโอกาสส่งผลให้สภาวะตลาดโดยรวมดีขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังคงตึงเครียด เมื่อไม่นานมานี้ รมช. กระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่า ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ กำลังเผชิญทางตัน สะท้อนให้เห็นความตึงเครียดที่ยังคงมีอยู่
ที่มา: CNBC
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel