คุณเคลวิน โคห์ (Kelvin Koh Yew Hock) เติบโตที่สิงคโปร์ เขาจะตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อช่วยแม่เปิดร้านอาหารก่อนจะเตรียมตัวไปโรงเรียน การเล่นกีฬาต่าง ๆ และคุณแม่ของคุณเคลวินนั้นสอนให้เขารู้จักความพากเพียร เป็นความพากเพียรนี้เองที่ทำให้เขาอยู่เมืองไทยและสร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมา แม้ว่าตอนเขามาถึงเมืองไทย จะเป็นช่วงเวลาไม่นานก่อนการรัฐประหารก็ตาม
คุณเคลวินบอกว่า ความพากเพียรคือส่วนหนึ่งของ DNA ของเขา คุณจะต้องรู้แน่ชัดว่าตัวเองต้องการอะไร ต้องทำอย่างไรถึงจะต่อยอดสิ่งนั้น ๆ ได้ และห้ามหยุดเรียนรู้เด็ดขาด
บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) (SISB TB) ก่อตั้งขึ้นในปี 2001 แรกเริ่มบริษัทได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในปี 2018 และย้ายไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ณ วันที่ 23 เมษายน 2019
SISB คือเจ้าของโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย โดยอ้างอิงหลักสูตรการเรียนการสอนจากสิงคโปร์ซึ่งเน้นความเชี่ยวชาญในด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มีการสอนแบบ 3 ภาษาคืออังกฤษ ไทย และจีน
ตั้งแต่ก่อตั้งมา SISB ได้ขยายเป็น 5 สาขา มอบการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นก่อนเข้าอนุบาล ไปจนถึงเกรด 12 (ม.6)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2020 โรงเรียนมีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 2,638 คน
เรียนรู้เกี่ยวกับคุณเคลวินและ SISB เพิ่มเติมในบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม (ภาษาอังกฤษ)
Company DNA: SISB
บทสัมภาษณ์นี้มุ่งประเด็น ไปที่การทำความเข้าใจ DNA ของบริษัท ว่าอะไรที่ทำให้ SISB มีความแตกต่างไม่เหมือนใคร เหมือนกับที่ DNA ทำให้คนแต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ธุรกิจเองก็เช่นกัน
ช่วยเล่าถึง Business DNA ของคุณหน่อยครับ
คุณเคลวิน: ผมคิดว่า DNA ของการศึกษานั้นค่อนข้างชัดนะครับ เราต้องการมั่นใจว่านักเรียนจะสามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเองได้ สุดท้ายแล้วเราก็ได้ใช้วิธีแบบองค์รวม (Holistic Approach) นั่นหมายความว่า นอกเหนือจากการเรียนดีแล้ว เราต้องการให้เด็ก ๆ รู้จักความรับผิดชอบต่อสังคม มีทักษะอื่น ๆ เช่นการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) และเติบโตมาเป็นคนดี ดังนั้นสำหรับ DNA ของผมแล้ว ผมมองว่าถ้าผมบริหารโรงเรียน เด็กนักเรียนจะต้องสามารถแตะศักยภาพสูงสุดของตัวเองได้ครับ
ธุรกิจการศึกษา ต้องมาพร้อมนักธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ
คุณเคลวิน: เพื่อที่จะบริหารธุรกิจด้านการศึกษาได้ คุณจะต้องเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก ๆ ครับ เพราะคุณกำลังจะสร้างผลกระทบต่อชีวิตเด็ก ๆ ตั้งแต่ระดับ 2 ขวบถึงเกรด 12 เลย ด้วยเหตุนี้คุณจึงต้องรำลึกไว้เสมอว่าธุรกิจการศึกษานั้นเป็นสิ่งที่สูงส่ง ดังนั้นเวลาที่ผมรับครูและนักเรียนใหม่ ๆ เข้ามา ผมอยากที่จะมั่นใจว่าพวกเขามองการศึกษาเป็นเรื่องที่สูงส่งเช่นกัน ฉะนั้นผมจึงอยากบอกว่าธุรกิจการศึกษานั้นต้องการนักธุรกิจที่มีความรับผิดชอบยิ่งกว่าธุรกิจอื่น ๆ เลยครับ
ช่วยบอกเราหน่อยว่าอะไรคือสิ่งที่หลาย ๆ คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ
คุณเคลวิน: สิ่งที่หลาย ๆ คนเข้าใจผิดมากที่สุดก็คือการเข้าใจว่าธุรกิจการศึกษานั้นไม่ควรทำเพื่อกำไร เราต้องแยกแยะความแตกต่างของการดำเนินการของโรงเรียนรัฐบาลกับเอกชนให้ออก โรงเรียนเอกชนต้องอยู่ให้รอด ไม่ใช่แค่ทำกำไรเท่านั้น
กำไรช่วยให้เกิดการพัฒนา
คุณเคลวิน: เราต้องมั่นใจว่าเรามีความสมดุล การจะทำแบบนี้ได้นั้นเราต้องมีกำไรก่อน จากนั้นเราจะได้สามารถพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงเรียน จ้างครูที่ดีขึ้น หรือจ่ายเงินเดือนครูและพนักงานให้สูงขึ้นเพื่อให้พวกเขาอยู่กับเราต่อ นี่ละครับคือวิธีที่เราสร้างสมดุล และเราก็ได้แสดงให้ผู้ปกครองเห็นถึงการพัฒนาของโรงเรียน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ ด้วยกำไรที่เราได้สร้างมาครับ
Leader DNA: คุณเคลวิน โคห์
คลิกเพื่อดูรูปขนาดเต็ม
ช่วยแนะนำตัวเอง และเล่าถึงประสบการณ์หรืออุปสรรคในชีวิตหน่อยครับ
คุณเคลวิน: ผมชื่อเคลวินครับ เป็น CEO ของ บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) เราจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในเดือนพฤศจิกายน 2018 ต่อมาก็ได้เป็นบริษัทการศึกษาแห่งแรกที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
คุณย้ายมาประเทศไทยไม่นานก่อนเกิดรัฐประหารขึ้น
คุณเคลวิน: ผมเป็นคนสิงคโปร์ครับ เมื่อ 29 ปีก่อนผมทำงานในบริษัทสิงคโปร์ที่มีธุรกิจค้าขายในกรุงเทพฯ หัวหน้าถามว่าผมสนใจจะไปเมืองไทยไหม? แน่นอนว่าผมไปสิ ผมไม่ลังเลเลยที่จะย้ายไปเมืองไทยในตอนนั้นแม้จะยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับประเทศนี้ก็ตาม ไม่กี่วันถัดมาหลังจากที่ผมถึงเมืองไทยในปี 1992 ก็เกิดการรัฐประหารขึ้น
ผมเป็นคนที่ถ้ารับงานมาแล้ว ก็อยากจะทำให้มันดี ผมเป็นคนมุ่งมั่นพากเพียร นี่ละครับคือส่วนหนึ่งของ DNA ผม ดังนั้นผมเลยยังอยู่เมืองไทยแม้ว่าจะมีรัฐประหาร
คุณช่วยคุณแม่ทำร้านอาหารด้วย
คุณเคลวิน: ผมไม่ได้มาจากครอบครัวที่ฐานะร่ำรวย ตอนเด็กถ้าผมต้องการอะไรผมก็ต้องหามาเอง ผมต้องทำงานเพื่อนำเงินมาจ่ายค่าเล่าเรียนเอง นอกจากนั้นผมยังเป็นคนที่ชอบเล่นกีฬามาก ๆ ด้วยครับ ผมคิดว่าสิ่งนี้ช่วยสร้างความพากเพียรให้กับผม ผมต้องการทำทุกด้านให้ดี ไม่ว่าจะเป็นด้านชีวิต การเรียน หรือการงาน
พ่อแม่ผมไม่ได้ทำเงินได้มากมาย แม่ผมทำร้านขายอาหาร ผมต้องตื่นเช้ามาก ๆ เพื่อช่วยแม่เปิดร้านก่อนจะไปโรงเรียน ความพากเพียรของแม่นั้นเป็นแรงบันดาลใจให้ผมครับ
คุณช่วยเล่าหน่อยได้ไหมว่าอะไรคือสิ่งที่กระตุ้นคุณ? คุณได้รับแรงบันดาลใจมาจากไหนในช่วงที่ยากลำบาก?
คุณเคลวิน: ตรง ๆ เลยครับ แรงบันดาลใจและแรงกระตุ้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผมคือนักเรียน เช่น เวลาที่ผมเห็นพวกเขาทำได้ดีและสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำได้ หรือเวลาที่พวกเขาได้อยู่ในทีมยิมนาสติกระดับชาติ หรือเป็นนักกอลฟ์เยาวชนที่ติด 20 อันดับแรก และอีกมากมายเลยครับ
นอกจากนั้นผมยังได้กำลังใจจากผู้ปกครองเวลาที่พวกเขาเห็นว่าผมทำได้ดี สิ่งนี้เป็นแรงกระตุ้นให้ผมได้มากเลยครับ ผมดีใจมาก ๆ เวลาที่มีคนบอกผมว่า “ขอบคุณนะสำหรับสิ่งที่คุณทำเพื่อลูกของเรา” สำหรับผมแล้ว นี่คือแรงกระตุ้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทำให้ผมยังเดินหน้าต่อไปครับ
ถ้าให้คุณย่อทุกอย่างที่คุณได้เรียนรู้มาทั้งหมดในหลายปีที่ผ่านมา ให้เหลือเพียงประโยคสั้น ๆ ประโยคเดียว ประโยคนั้นคืออะไร?
คุณเคลวิน: ความจริงใจครับ ถ้าคุณไม่จริงใจ คุณจะไม่มีทางสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนได้เลย
สรุปประเด็นสำคัญ
ธุรกิจการศึกษานั้นต้องการนักธุรกิจที่มีความรับผิดชอบสูงกว่าธุรกิจทั่วไป: เพื่อที่จะบริหารธุรกิจด้านการศึกษาได้ คุณจะต้องเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก ๆ เพราะคุณกำลังจะสร้างผลกระทบต่อชีวิตเด็ก ๆ ด้วยเหตุนี้คุณจึงต้องรำลึกไว้เสมอว่าธุรกิจการศึกษานั้นเป็นสิ่งที่สูงส่ง คุณต้องมั่นใจว่าคุณครูของคุณเข้าใจตรงกันในจุดนี้
การสร้างกำไรในธุรกิจการศึกษานั้นไม่ใช่เรื่องผิด: คนมักจะเข้าใจผิดว่าธุรกิจการศึกษานั้นไม่ควรทำเพื่อผลกำไร กำไรนั้นจะช่วยพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก จ้างครูที่ดีขึ้น หรือเพิ่มค่าจ้างให้พนักงานอยากอยู่ต่อไปได้
เป็นผู้ตัดสินใจที่น่าเชื่อถือ: ทำใจให้โล่งไว้ ยึดมั่นในข้อเท็จจริง เป็นผู้ตัดสินใจที่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเอง ถ้าคุณเป็นผู้นำประเภทนี้ ผู้คนจะอยากทำงานกับคุณ
อย่าหยุดเรียนรู้: เรียนรู้และพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ ก็เหมือนกับธุรกิจ หากคุณหยุดการสร้างนวัตกรรม คุณก็จะก้าวถอยหลัง
ทรัพยากรมนุษย์คือข้อจำกัดด้านการเติบโตของ SISB: มีโอกาสมากมายสำหรับธุรกิจ แต่ข้อจำกัดก็คือทรัพยากรมนุษย์ ความท้าทายคือทำอย่างไรถึงจะสามารถดึงคนที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันกับคุณมาร่วมงานได้
เรียนรู้เกี่ยวกับคุณเคลวินและ SISB เพิ่มเติมในบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม (ภาษาอังกฤษ)
บทความต้นฉบับโดย Andrew Stotz
ที่มาบทความ: https://becomeabetterinvestor.net/business-dna-bringing-international-private-education-to-thailand/
**สนใจลงทุนพอร์ต All Weather Strategy พอร์ตกองทุนรวมจัดโดย Andrew Stotz ซึ่งจะช่วยให้เราได้ผลตอบแทนจากหุ้นในระยะยาว ในขณะที่ลดความรุนแรงของการขาดทุนในช่วงภาวะตลาดขาลง หากสนใจดูข้อมูลและลงทุนในพอร์ตนี้ สามารถคลิกที่นี่ https://www.finnomena.com/port/andrew/ หรือแบนเนอร์ข้างล่างได้เลยครับ