มุมมองตลาดปัจจุบัน
ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า หลังจากที่หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ยูโรโซน และจีน ต่างบ่งชี้ว่ากิจกรรมในภาคการผลิตกลับมาขยายตัวจากแรงหนุนของคำสั่งซื้อใหม่ เป็นสัญญาณว่าการค้าโลกมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น อย่างไรก็ดี การที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในหลายประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้หลายประเทศในยุโรปกลับมาใช้มาตรการล็อคดาวน์ และมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจของสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้า ส่งผลให้มีแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือนกันยายน บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายภาคส่วนกลับมาเป็นปกติ ในขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มประมาณการผลประกอบการในเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงมีความเสี่ยงขาขึ้นจากหลายปัจจัย ได้แก่ ข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ การฟื้นตัวของราคาน้ำมัน การฟื้นตัวของตัวเลขเศรษฐกิจ เป็นต้น ในขณะที่ความเสี่ยงขาลง ได้แก่ การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ความวุ่นวายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
ทั้งนี้ หากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นไปตามที่คาด โดยนายโจ ไบเด็น ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี และพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ตลาดหุ้นทั่วโลกน่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโจ ไบเด็น ซึ่งจะมีการใช้จ่ายจำนวนมาก ในขณะที่ นโยบายการขึ้นภาษีของนายโจ ไบเด็นอาจทำได้ยาก เพราะมีแนวโน้มจะถูกขัดขวางโดยวุฒิสภา
กองทุนหุ้นที่อยู่ในพอร์ตคาดว่าจะได้รับผลประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ และคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะเริ่มฟื้นตัวนำโดยหุ้นขนาดใหญ่ หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่ให้ผลตอบแทนต่ำที่สุดในช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากราคาหุ้นขนาดใหญ่ปรับตัวลงมามาก ในขณะที่ นักวิเคราะห์หลายรายเริ่มส่งสัญญาณปรับประมาณการผลประกอบการของบริษัทในตลาดหุ้นไทย หลังเศรษฐกิจไทยไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นอื่น ๆ มีแนวโน้มได้แรงหนุนจากเงินทุนไหลเข้า
ในส่วนของตราสารหนี้ ผู้จัดการกองทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากภาวะดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำทั่วโลก และทิศทางการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางที่ยังคงเอื้อต่อการลงทุน อย่างไรก็ดี นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโจ ไบเด็นจะส่งผลให้มีการออกจำหน่ายพันธบัตรเป็นจำนวนมาก จึงอาจส่งผลให้ผลตอบแทนการลงทุนในตราสารหนี้ลดลง
กองทุนแนะนำสำหรับการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์/ภูมิภาค
กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ
KFAFIX-A:
- ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผลตอบแทนของกองทุนกลุ่มตราสารหนี้ระยะกลาง – ยาวปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากเส้นอัตราผลตอบแทนรัฐบาล (Yield Curve) ปรับลดลงในลักษณะแบนราบ ภายหลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาในเดือนก่อนหน้า และ นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับปริมาณการออกพันธบัตรรัฐบาลในไตรมาสที่ 4 มีแนวโน้มยาวกว่าที่คาด ตามความล่าช้าของการอนุมัติงบประมาณ รายจ่ายประจำปีและความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณ นอกจากนั้นส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (Corporate spread) ของหุ้นกู้เอกชนไทยในกลุ่มที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงเริ่มปรับตัวลดลงทำให้กองทุนที่มีการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนได้รับประโยชน์เพิ่มเติม
- สำหรับแนวโน้มในช่วงหนึ่งเดือนข้างหน้าคาดว่าส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้เอกชนกลุ่มที่มีคุณภาพเครดิตสูงจะปรับลดลงต่อเนื่อง ภายหลังจากสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้ปรับตัวดีขึ้นทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง จึงทำให้การคาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนของกองทุนกลุ่มนี้มีความน่าสนใจโดยเฉพาะสำหรับเงินทุนระยะยาวที่ไม่ต้องการสภาพคล่องในระยะสั้น เช่น กองทุน KFAFIX-A (ขั้นตํ่า 1 ปี ขึ้นไป) โดยปัจจุบันกรอบ Duration เฉลี่ยของกองทุน KFAFIX-A = 2 – 3 ปี
กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ
KF-SINCOME/ KF-CSINCOM:
- กองทุนมองว่านโยบายเกี่ยวกับเงินเฟ้อของธนาคารกลางไม่น่ามีผลต่อตลาดระยะสั้น เพราะเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้แล้ว กองทุนเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันที่เป็นที่ต้องการสูง ได้รับการชำระหนี้คืนก่อนตราสารด้อยสิทธิและกลุ่มธุรกิจที่มีการกำกับดูแลดีเช่นภาคธนาคาร และยังคงการลงทุนบนตราสารหนี้รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลมีฐานะการคลังอยู่ในระดับดี เช่น ซาอุดิอาระเบีย และรัสเซีย
กองทุนตราสารทุนในประเทศ
KFENS50-A:
- กองทุนเน้นการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET 50
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
Developed market equity
KFGBRAND-A / KFGBRAND-D:
- กองทุนลงทุนหุ้นที่มีคุณภาพสูง เน้นหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วโลกที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เติบโตสม่ำเสมอในระยะยาว ทนทานในทุกวัฏจักรเศรษฐกิจ ทำให้กองทุนมี Downside ที่น้อยกว่าตลาดหุ้นโลก เมื่อตลาดปรับตัวลดลง
KF-HUSINDX:
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นของ FED ที่เพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด อย่างไรก็ตาม ตลาดสหรัฐฯ ยังมีความเสี่ยงจากความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในประเด็นเรื่องฮ่องกงและสงครามการค้า โดยจีนยกเลิกการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ขณะที่สหรัฐฯ เองก็สั่งห้ามการค้าขายกับ Huawei และอาจห้ามบริษัทจีนมาจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งนี้ ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะยังคงอยู่จนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปลายปีนี้
- กองทุนหลักเน้นลงทุนใน iShares Core S&P500 ETF ซึ่งจะมีผลการดำเนินงานที่ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของดัชนี โดยคาดการณ์การเติบโตยังคงมีอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับนโยบายต่าง ๆ ของภาครัฐ เช่น การปฏิรูปภาษี การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น
KF-EUROPE/ KF-HEUROPE:
- ตลาดยุโรปยังคงถูกกดดันด้วยการระบาดรอบ 2 โดยจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นสูงต่อเนื่อง ทำให้ตลาดมีความกังวลว่ารัฐบาลอาจนำมาตรการ Lockdown กลับมา โดยแรงส่งสำคัญของตตลาดยุโรปจะมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ งบประมาณราว 5 แสนล้านยูโร ทั้งนี้กองทุนหลักเน้นการลงทุนในหุ้นเติบโตที่มีคุณภาพสูงในกลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม เป็นต้น
Emerging market equity
KFACHINA-A:
- ตลาดจีนอาจมีความผันผวนต่อเนื่องในช่วงใกล้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยต้องจับตามองนโยบายของทั้งทาง Trump และ Biden ที่จะมีต่อจีนทั้งในเรื่องการค้าและเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม ภาพเศรษฐกิจจีนยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องโดยรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการบริโคภในประเทศมากขึ้น เพื่อจะลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายของสหรัฐฯ
Multi-Asset
KFAINCOM-A / KFAINCOM-R:
- ในช่วงที่ภาวะตลาดทุนมีแนวโน้มผันผวน การลงทุนแบบ Multi-Asset Income Fund กระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั้ง หุ้น ตราสารหนี้และสินทรัพย์ทางเลือกที่ให้ Yield ที่ดี จะช่วยลดความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดปรับตัวผันผวนขณะที่ยังคงได้รับผลตอบแทนในระดับที่น่าสนใจ
Krungsri Asset Management
สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน Krungsri The Masterpiece สามารถดูพอร์ตการลงทุนได้ตามช่องทางนี้
ผ่านมือถือ/Tablet >> แอปฯ FINNOMENA
ผ่านคอมพิวเตอร์ >> เว็บไซต์ FINNOMENAสำหรับลูกค้าที่สนใจลงทุนใน Krungsri The Masterpiece คลิกที่นี่เพื่อสร้างแผนการลงทุน
หมายเหตุ:
- กองทุน KFGBRAND-A, KFGBRAND-D, KF-EUROPE, KFACHINA-A ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- กองทุน KF-SINCOME, KF-CSINCOM, KFAINCOM-A, KFAINCOM-R, KF-HUSINDX, และ KF-HEUROPE ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
คำเตือน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร 0 2657 5757