ขณะที่ช่วงต้นปีเอง ประเทศไทยได้มีข่าวดีที่ทางธนาคารกลางได้ประกาศความคืบหน้าของโปรเจค “บาทดิจิทัล” ของโครงการอินทนนท์ ที่ได้มีการเริ่มทดสอบระบบในการซื้อสินค้าและชำระเงินแบบอัตโนมัติของบริษัทมหาชน SCG เพื่อนำร่องในการพัฒนาระบบการชำระเงินที่สามารถใช้ในภาคประชาชนต่อไปในอนาคต
ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ทางประเทศจีนเองก็มีความคืบหน้าที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นก็คือ “โครงการหยวนดิจิทัล” ด้วยเล็งเห็นการพัฒนาสังคมไร้เงินสดที่สามารถบันทึกและตรวจสอบเงินทุกหยวนที่ผู้คนต่างใช้จ่ายในระบบได้อย่างสมบูรณ์
โดยทางเมืองเซินเจิ้นได้ทำการทดลองนำร่องเป็นที่แรก โดยมีการเปิดให้ประชาชนที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทดสอบระบบหยวนดิจิทัลได้ลงทะเบียนรับหยวนดิจิทัลมูลค่า 200 หยวนไปทดลองใช้กับร้านค้าต่าง ๆ กว่า 3,300 แห่งภายในช่วงวันที่ 18 ตุลาคม ผ่านโครงการ “Luohu Digital RMB Red Packet”
โดยเบื้องต้นมีประชาชนได้สมัครเข้ามาลงทะเบียนมากถึง 1,193,800 ราย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางรัฐบาลเซินเจิ้นจะมีการสุ่มแจกให้ผู้มีสิทธิ์ได้รับหยวนดิจิทัลฟรี เพียง 50,000 ราย โดยเริ่มทำการสุ่มรายชื่อผู้โชคดีขึ้นตั้งแต่ช่วงวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา
เรียกได้ว่าทางองค์กรรวมถึงสถาบันต่าง ๆ ทั่วโลกต่างเล็งเห็นประโยชน์และโอกาสในการต่อยอดแบบมหภาคของเทคโนโลยีบล็อกเชน และเริ่มมีการประยุกต์ใช้ประกาศพัฒนาระบบการเงินโลกใหม่นี้ขึ้นมากันถ้วนหน้า สำหรับประเทศไทยเองก็มีการตื่นตัวและเริ่มมีการทดลองในระบบธุรกิจมหาชนแล้วเช่นกัน ส่วนในอนาคตจะมีการเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้ “บาทดิจิทัล” หรือไม่ ก็ต้องคอยติดตามกันต่อไป