ยีลด์แท้จริงสหรัฐ 10 Year TIPS ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดใน 3 เดือนครึ่ง ปิดตลาดเหนือ -0.9% ครั้งแรกตั้งแต่ปลาย ก.ค. ความคาดหวังเงินเฟ้อทรงตัวต่ำกว่าจุดสูงสุดของช่วงหลังวิกฤตไม่มากนัก ยีลด์พันธบัตร 10 ปี ทะยานขึ้นไปใกล้พีคเดือน มิ.ย.
นักลงทุนแห่เก็ง “ยีลด์ขึ้น” หนาแน่นเป็นประวัติการณ์ CFTC เผยสถานะขายสุทธิฟิวเจอร์สพันธบัตรสหรัฐ 30 ปี รายสัปดาห์สิ้นสุด 27 ต.ค. อยู่ที่ 259,953 สัญญา เพิ่มขึ้นจาก 236,636 ในสัปดาห์ก่อน สร้างจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง สะท้อนมุมมองของบรรดาเทรดเดอร์ซึ่งเทใจคาดว่า โจ ไบเดน และพลพรรคเดโมแครต น่าชนะเลือกตั้งกวาดเรียบทำเนียบขาวบวกสองสภา (เรียกว่า Blue Wave) แล้วจะออกแพคเกจกระตุ้นมหึมา กู้หนี้เพิ่ม เติมซัพพลายเข้าสู่ตลาดบอนด์ เป็นปัจจัยหนุนยีลด์พุ่งขึ้น …แม้ข่าวสมาชิกสภาคองเกรสแยกย้ายสลายโต๋ทิ้งกรุงวอชิงตันกลับบ้านใครบ้านมันหลังโหวตรับรองผู้พิพากษาสูงสุดคนใหม่โดยไร้แพคเกจช่วยเหลือประชาชน และโควิดเขย่ายุโรป อาจกระตุ้นให้นักลงทุนบางส่วนกลับเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อปิดสถานะดังกล่าว กดยีลด์ย่อลงช่วงต้นสัปดาห์ แต่ก็มิอาจหยุดยั้งความร้อนแรงของ “สึนามิสีน้ำเงิน” (Blue Wave แปลเพี้ยน ๆให้ดูเว่อร์วัง) ยีลด์พันธบัตร 30 ปี รีบาวด์ 3 วันขึ้นมาเกือบถึงจุดสูงสุดเดิมของวีคที่แล้ว
ยีลด์แท้จริงกระชากยีลด์พันธบัตรขึ้น (ความคาดหวังเงินเฟ้อค่อนข้างทรงตัว) แบบนี้ไปต่อลำบากเพราะทำให้หุ้นตก เศรษฐกิจจริงมีหนี้สินเยอะ อัตราว่างงานสูง ยังอ่อนแอเกินไป ไม่สามารถแบกรับต้นทุนทางการเงินสูงๆ นอกจากนี้ เฟดเตรียมพร้อมอัด QE ไม่อั้นเพื่อสนับสนุนการกู้ยืมของรัฐบาลสหรัฐไม่ว่ามาจากพรรคใด …ยีลด์สหรัฐคงขึ้นได้จำกัด ดังนั้น growth-to-value rotation ก็คงเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราวไม่ยั่งยืน แต่บอกยากว่ารอบนี้จะสั้น/ยาวแค่ไหน
หลายชาติยุโรป lockdown รอบสอง บีบ ECB ให้ผ่อนคลายเพิ่มค่อนข้างแน่ พันธบัตรยุโรปไม่ต้องกลัวว่ายีลด์จะขึ้นเยอะเพราะมีความเสี่ยงเงินฝืด ยีลด์ลงต่อเนื่องกดหุ้นยุโรปร่วงแรงสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายหุ้นแล้วไปซื้อบอนด์เพื่อเก็งกำไรไล่ราคาในลักษณะ short-term tactical stock-to-bond rotation
#เบรกธรรมชาติ เริ่มทำงานในยุโรป ยีลด์พันธบัตรเยอรมนีเริ่มรีบาวด์ตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ แหล่งข่าวเผยรัฐบาลเตรียมออกพันธบัตรเพิ่มอีกเยอะเพื่อระดมเงินช่วยธุรกิจ ชะลอการร่วงลงของยีลด์และลดแรงจูงใจในการทำ stock-to-bond rotation จากนี้นักลงทุนน่าจะเข้าสู่โหมด “หวัง” เฝ้ารอการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหลัง lockdown ตลอดมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม ดังนั้น การกลับมาของกระทิงหุ้นยุโรปจึงอาจจะเร็วและแรงกว่าที่คนส่วนใหญ่คาดคิด!
สับเปลี่ยนออกบางส่วน KTSTPLUS-A (15%) ไปเข้า KT-EURO
สับเปลี่ยนออกบางส่วน KTSTPLUS-A (5%) ไปเข้า KT-CHINA-A
สัดส่วนการลงทุนรอบนี้
ตราสารหนี้ระยะสั้น = 20%
KTSTPLUS-A
หุ้น AI = 15%
KT-WTAI-A
หุ้นจีน (offshore เป็นส่วนใหญ่) = 20%
KT-CHINA-A
หุ้นจีน onshore = 20%
KT-ASHARES-A
หุ้นยุโรป = 15%
KT-EURO
หุ้นลุ่มแม่น้ำโขง = 10%
KT-CLMVT-A
Krungthai Asset Management
สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน Krungthai Belief Allocation สามารถดูพอร์ตการลงทุนได้ตามช่องทางนี้
ผ่านมือถือ/Tablet >>แอปฯ FINNOMENA
ผ่านคอมพิวเตอร์ >> เว็บไซต์ FINNOMENAสำหรับลูกค้าที่สนใจลงทุนใน Krungthai Belief Allocation คลิกที่นี่เพื่อสร้างแผนการลงทุน
โปรดทราบ สำหรับลูกค้าฟินโนมีนาที่ลงทุนใน FINNOMENA PORT และได้รับบทความนี้ แต่ยังไม่ได้รับอีเมลและ/หรือ Notification ในการแจ้งสัดส่วนเงินในการเข้าลงทุน อาจเกิดจาก 1) ท่านอยู่ระหว่างการทำรายการซื้อขายกองทุน ซึ่งทางฟินโนมีนาจะแจ้งเตือนอีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์หลังจากการทำรายการซื้อขายเสร็จสิ้น หมายเหตุ หากท่านไม่ประสงค์ที่จะรอรับการแจ้งเตือน ท่านสามารถดูรายละเอียดของพอร์ตการลงทุนที่แนะนำผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของฟินโนมีนาพร้อมปรับพอร์ตเข้าลงทุนได้ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID: @FINNOMENAPORT |
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด มหาชน หรือ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”