โลกใบใหม่นอกรั้วมหาลัย ย้อนไปเมื่อ 10 ปี++ หลังจากจบมหาลัยรัฐแห่งหนึ่ง เพื่อนๆต่างพากันดีใจที่เรียนจบกันเสียทีต่อไปไม่ต้องอยู่กับกฎระเบียบไม่ต้องนั่งอ่านหนังสือสอบแหละ แต่สำหรับแพนกลับกังวลการก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ที่เรียกกันว่าพนักงาน office เมื่อถึงงาน Job Fair ของมหาลัย (มหาลัยก็ประเคนเหลือเกิ๊นให้นักศึกษาของตนรีบมีงานทำ) มีบริษัทมหาชนหลายบริษัทที่แพนได้สมัครไป แล้วสวรรค์ก็คงกำหนดไว้ให้แพนได้ทำงานกับสถาบันการเงินใหญ่ของเมืองไทย ทั้งๆที่วุฒิการศึกษาไม่ได้จบทางการเงิน คงต้องขอบคุณชื่อเสียงมหาลัย

เงินเดือนตอนกรอกใบสมัคร 15,000 บาทแต่ทางบริษัทแจ้งว่าเงินเดือน+ค่า….ให้ 20,000 กว่าๆ ห๊าต๊กกะใจ ได้มากกว่าขออีก วันแรกของการก้าวย่างเข้าสู่ตึกลัดฟ้า น้ำตาจะไหล มองนาฬิกาจะกลับตลอด พออ๊อดดังลุกสิกลับเล้ย พอ 3 วันผ่านไปเพื่อนร่วมงานรุ่นเดียวกัน เริ่มมากระซิบว่าเดี๋ยวจะโดนนะจ๊า หลังจากนั้นทำงานผ่านไป 2-3 ปีกลับ ตี 2-3 ปกติม๊าก เสาร์อาทิตย์ทำงานก็ปกติม๊าก ทำงานจน OT มากกว่าเงินเดือนอีก เดือนแรกเงินเดือนออกเครียดมากต้องให้รางวัลชีวิตสักหน่อยซื้อนาฬิกา 49,000 บาท ตอบตัณหาตัวเองว่าซื้อ “สินทรัพย์” ทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าแปลว่าไร

ด้วยสภาพการทำงานที่มีแต่ความเครียดต่างๆ (ทั้ง KPI ประชุม กิจกรรม…..) ทำให้แพนมีความคิดตลอดว่าจะต้องเป็นแบบนี้จน 60 ปี? แล้วถ้าแพจไม่อยากเป็นแบบนั้นหล่ะ ต้องทำยังไง (เหมือนคนบ้าม่ะพูดกับสมองตัวเองตลอดตล๊อด) ช่วงแรกจึงเริ่มมีการจดรับ-จ่าย ค่าใช้จ่ายรายวัน และเริ่มเก็บเงินเพื่อมาลงทุน ด้วยการเดินทางที่ผ่านมาผิดมาก็เยอะเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระก็มาก พอเริ่มอ่านหนังสือ ติดตาม facebook youtube ทางการเงิน ดูชีวิตผู้ที่ประสบความสำเร็จ ทำให้รู้ว่าเมื่อเราเริ่มสนใจอะไรสักอย่างที่เป็นประโยชน์กับตัวเราสิ่งดีๆก็จะตามมา ยิ่งถ้าเราค้นพบตั้งแต่อายุยังน้อยยิ่งได้เปรียบ จึงขอใช้คำว่า รู้งี้ทำมานานหล่ะ รู้งี้ของแพนมีดังนี้

1.Goal ซึ่งเป็นนามธรรมกว่า Target แต่เป็นฝันกลางวันที่ถ้าเรามาถูกทางมันจะกลายเป็นฝันที่เป็นจริง (พี่ต๋อย ไตรภพ มามอบรถเข็นเองเลย) เช่น แพนอยากมีอิสรภาพทางเงินอ่ะ มี Passive income เดือนละ…….บาท (กรอกเองเล้ย เดี๋ยวเซ็นให้ไปขึ้นเงินกัน) ซึ่งความเป็นจิงตัวเลขที่ว่างอยู่นี้คุณควรที่จะประเมินจาก ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันขั้นพื้นฐาน (กิน, ค่าสาธารณูปโภค) + ค่ารายปีที่ต้องจ่าย (ค่าประกันฯ) + ค่ารักษาพยาบาล + อื่นๆ (ตามแต่ละบุคคล)

2. Idol คำสั้นๆแต่ล้านความลึกซึ่ง เพราะหากคุณเลือก Idol ผิดคน ความสำเร็จของคุณจะช้าเหมือนวนอยู่ในอ่าง หรือไม่ประสบความสำเร็จเลย บุคคลต้นแบบนี้คือคนที่คุณจะเดินทางตามแนวคิดเขาแล้วมาปรับสมดุลให้เข้ากับจริตของตัวคุณเอง เขาคือคนที่เคยล้มไม่รู้กี่ครั้งแล้วลุกขึ้นประสบความสำเร็จ เพื่อมาถ่ายทอดให้พวกคุณๆ รวมทั้งแพนรู้ว่าอะไรที่ควรหลีกเลี่ยง อะไรคือแก่นแท้ที่เราจะประสบความสำเร็จได้ มันเหมือนเป็นทางลัด มันสำคัญมากๆในความรู้สึกของแพน เพราะเคยเจอประสบการณ์ตรงสมัยเริ่มลงสนามลงทุนหุ้นใหม่ๆตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อน รุ่นน้องในที่ทำงานนำหนังสือการลงทุนเล่มหนึ่งมาให้อ่าน ผู้เขียนหนังสือก็หน้าตาดี ทำให้หนังสือกลายเป็น Best seller แพนก็เลยเริ่มซื้อมาอ่านของผู้เขียนคนนี้อีกหลายเล่มแต่เนื้อหามันยังไม่ตอบโจทย์

จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีโอกาสดูรายการ….ซึ่งแขกรับเชิญเป็น ดร.นิเวศน์ เหมือนสวรรค์มาโปรด จึงเริ่มติดตามทั้งหนังสือ รายการต่างๆ ที่ ดร.นิเวศน์ ออก โอกาสเปิดเรามาถูกทาง You are my Idol ! เราคิดว่าเราเลือกถูกแหละ สิ่งดีๆต่างๆก็ตามมา คือสาวกของ ดร.นิเวศน์ มันทำให้แพนเกิดแรงบันดาลใจ ลูกศิษย์ ดร.นิเวศน์ จากคนธรรมดา ไม่ว่าจะเป็น คุณโจ ลูกอีสาน , เซี่ยนมี่ , นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ ปัจจุบันก็ประสบความสำเร็จเป็นหลักพันล้านขึ้น ชอบคำพูดของ Ray Dalio นี้จัง สิ่งสำคัญที่สุดของการตัดสินใจคือการปรึกษาให้ถูกคน (แล้วจะรู้ได้อย่างไรหล่ะว่าถูกคน หลักๆเช่น เขาต้องประสบความสำเร็จในสิ่งนั้นๆซ้ำๆ ,เขาสามารถอธิบายวิธีการได้ ที่เหลือไปตามอ่านเองกับหนังสือของ Ray Dalio)

3. Plan ทำไมองค์กรใหญ่ๆทุกปี เริ่มต้นปีต้องมีการประชุมดึกๆดื่นๆเพื่อสร้าง schedule plan ก็เพื่อให้บุคลากรหลายพัน หมื่น เดินไปในทิศทางที่ตรงกับเป้าหมายขององค์กร อย่างที่ Ray Dalio จะเขียนเหตุและผลของการตัดสินใจของเขาทุกครั้ง เพื่อประเมินเป็นหลักการดำเนินงานในองค์กร เมื่อเกิดปัญหานี้ซ้ำอีกสามารถนำข้อมูลที่บันทึกไว้มาเป็นตัวเลขช่วยการตัดสินใจของเขาในครั้งต่อไป หากมาปรับใช้กับแพนในเรื่องการลงทุน การวางแผนในการเดินทางให้สู่ความมีอิสรภาพทางการเงินมันเป็นการเดินระยะยาว (หากใครมาบอกกับคุณว่า อยากรวยเร็วให้ลงทุนนู้นนี้นั่น ระวังมันอาจเป็นแชร์ลูกโซ่)

3.1 แผนระยะยาว เงินที่จะไม่ต้องการใช้ในอีก 5 ปีขึ้นไป เพื่อมาลงทุนในสินทรัพย์ที่จะสามารถสร้าง Passive Income ให้เราได้แม้เรากำลังนอนหลับ “หากคุณไม่สามารถหาเงินได้แม้ในยามที่คุณหลับ คุณก็จะต้องทำงานไปตลอดชีวิต” คำพูดสร้างแรงบันใจจากคุณปู่ วอเร็น บัฟเฟตต์ แต่ที่สำคัญ! ก่อนที่คุณจะลงทุนอะไรคุณต้องศึกษาและเข้าใจมันเสียก่อน สำหรับแพนผ่านประสบการณ์ลองผิดลองถูกมา ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ใช่ว่าจะไม่ผิดนะ แต่มันจะเกิดการเรียนรู้ หากคุณลงทุนแม้บางครั้งคุณจะไม่สำเร็จแต่สิ่งที่คุณได้แน่ๆ คือบทเรียน

– อสังหา แพนเคยซื้ออาคารพาณิชย์ในตัวเมืองเพื่อมาลองปล่อยเช่า แต่พอมีคนแค่มาดูก่อนเช่า ปัญหาก็ตามมามากมาย ไม่ว่าจะต้องการให้ลดราคา ไม่ยอมจ่ายล่วงหน้า ให้ปรับปรุงบ้านใหม่ ทำให้รู้สึกว่ามันอาจจะไม่ทางของเรา และเพื่อนที่ให้เช่าคอนโดก็มาบ่นว่ายิ่งให้เช่านานวัน ราคาห้องจากเดิมที่ได้หมื่นบาทก็ลดลงมาเรื่อยๆ เพราะสภาพไม่ใหม่แล้ว คนเปลี่ยนเช่าบ่อยอยู่ไม่นาน ทำห้องเสียหาย

– พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ ช่วงแรกของการลงทุนเป็นช่วงที่ ดอกเบี้ยยังได้ 4-6% ระยะเวลาฝาก 5 ปีขึ้น เพราะเป็นช่วงวิกฤติ Subprime รายรับส่วนใหญ่จึงลงทุนในส่วนนี้ แต่ปัจจุบัน ด้วยดอกเบี้ยอย่างมาก 3% ระยะเวลาฝาก 10 ปีขึ้น + ข้อจำกัดในการลงทุน เช่น หุ้นกู้หลายบริษัทระบุต้องเป็นนักลงทุนรายใหญ่ (ต้องมี wealth หลัก 10 ล้านขึ้น) , การจองที่เต็มเร็วมากแม้ดอกเบี้ยจะน้อยนิด แต่อย่างไรการลงทุนนี้ก็ยังเป็นสิ่งที่ดีเพื่อช่วยลดความเสี่ยงพอร์ตระยะยาวของเราได้

– หุ้น ถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงก่อนลงทุนควรจะศึกษาหาความรู้ก่อน หุ้นแบ่งเป็นสาย Fundamental กับ technical เพราะหลักการซื้อขายของคุณทุกครั้งมันต้องมีแบบแผน เช่น หากเป็นสาย technical ต้องซื้อแพงแล้วไปขายที่แพงกว่า ต้องรู้จักการ stop loss แต่หากเป็นสาย Fundamental ต้องซื้อหุ้นเมื่อราคาต่ำกว่าพื้นฐาน แล้วจะขายเมื่อพื้นฐานกิจการเปลี่ยนหรือพบหุ้นที่ดีกว่า เพราะโดยส่วนตัวตอนเริ่มลงทุนใหม่ๆไม่เข้าใจ ขายหุ้นที่ขึ้นเท่านั้นทำให้พอร์ตมีแต่หุ้นที่ไม่ดีตัวแดง ซื้อหุ้นตามข่าวว่าวันนี้มีหุ้นตัวไหนเป็นตัว Top ที่มีคนซื้อสูงสุด เพื่อนบอกกำไรวันละหลักหมื่นก็ซื้อตามเพื่อน พอซื้อหุ้นก็ลงไม่กล้าขาย บางตัวเก็บมา 10 ปีราคาลงกว่า 80%

จึงได้มาคิดว่าเราควรที่จะลงทุนในความรู้ก่อน จึงได้เริ่มซื้อหนังสือมาอ่าน (เลือกหนังสือให้ถูกก็เหมือนเลือก Idol ถูกคน) ติดตาม Facebook ดีๆ (เช่น FINNOMENA, money talk….) เมื่อความรู้เพิ่มขึ้นก็กลับมาดูพอร์ตหุ้นของตัวเอง ยอมตัดขายหุ้นที่เราดูแล้วพื้นฐานกิจการเปลี่ยน งบ 10 ปีที่ผ่านมาไม่สามารถออกดอกผลให้เรา จากพอร์ตของแพนที่มี ผ่านไป 10 ปี++ หุ้นค้าปลีกตัวหนึ่งให้ผลตอบแทน +200%up แต่ด้วยจำนวนเงินที่ลงไปตอนนั้นน้อยมากทำให้พอร์ตไม่ได้โต , หุ้นถ่านหินตัวหนึ่ง ให้ผลตอบแทนติดลบกว่า 80% , หุ้นโภคภัณฑ์เคยขึ้นไป +30% แต่ไม่ได้ขาย พอช่วงโควิทราคากลับมาเท่าที่เคยซื้อ ทำให้เข้าใจเลยว่า การที่คุณเลือกวางเงินให้ถูกที่ในระยะยาว+จำนวนเงินที่พอสมควรมันสามารถสร้างผลตอบแทนให้คุณมหาศาล แต่หากคุณเลือกวางเงินที่ผิดที่ถึงเป็นระยะยาวคุณกลับติดลบไปเรื่อยๆ การที่มีผลวิจัยต่างๆออกมาว่า หุ้นให้ผลตอบแทนค่าเฉลี่ยสูงกว่าการลงทุนประเภทอื่นนั้น แต่คุณต้องเลือกถูกตัวด้วยนะ เพราะหากคุณเลือกผิดตัวคำพูดคงต้องกลับเป็นว่าหุ้นไม่ดีทำให้เงินของคุณลดค่าไปเรื่อยๆ

3.2 แผนระยะสั้น เงินที่จะต้องใช้ช่วง <2 ปี ซึงระยะเวลาก็น่าจะแล้วแต่คน เอาเป็นว่าเงินที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร เสื้อผ้า สาธารณูปโภค ค่าผ่อนต่างๆ ….. และที่สำคัญเมื่อเกิดวิกฤตอาจเป็นโอกาสที่ดี หากเรามีเงินสดเพื่อสินทรัพย์ได้ในราคาที่ถูก ซึ่งสามารถเก็บในรูปแบบออมทรัพย์ประจำ 3-6 เดือน กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น

4. Money ที่คนบอกว่าคือ God คำนิยามนี้มันดูจะกว้างมาก เซี่ยนมี่เคยกล่าวว่า “เงินอ่ะเลือกเจ้าของ หากคุณเป็นคนที่ขยัน เก่ง ขยันเรียนเรียนรู้ …..สรุปคืออุปนิสัยของคนที่ประสบความสำเร็จ เงินก็จะมาหาคุณ ถึงแม้คุณจะไม่ต้องการมัน แต่ถ้าคุณมีอุปนิสัยที่ตรงกับข้ามกับที่กล่าวมา ไม่ว่าจะขี้เกียจ ซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็นตลอดเวลา….. ถึงคุณจะรักเงินแค่ไหน เงินก็จะไม่มาอยู่กับคุณ” ดังนั้น หากเริ่มวางแผนการเงินตั้งแต่วันนี้ให้ดีที่สุด การเข้าใจคุณค่าของ Future Value จะทำให้เข้าใจในสินทรัพย์ที่เราจะใช้ Money ซื้อมา ว่า “ซื้อขยะ” หรือ “ซื้อสินทรัพย์” การจะลงทุนอะไรก็ตามหากเราไม่มีเงินตั้งแต่แรก เราก็ไม่สามารถทำตามฝันได้ แต่เงินสามารถเริ่มตั้งแต่น้อย เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ เหมือนที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวว่า สิ่งมหัสจรรย์อันดับ 8 ของโลก คือ “ดอกเบี้ยทบต้น”

The End