แจ้งเตือน

กลับสู่หน้าหลัก

REVIEW 5 แอปบันทึกรายรับรายจ่าย ที่ติดอันดับใน App Store

เขียนโดย Sparkling

เชื่อว่าหลายคนคงมีปัญหาเกี่ยวกับการบันทึกรายรับรายจ่ายกันอยู่ แล้วในแอปสโตร์ทุกวันนี้มันก็มีแอปพลิเคชั่นช่วยเรื่องพวกนี้เยอะมาก แต่เราจะรู้ได้ยังไงว่าแอปไหนดีหรือไม่ดียังไง จะให้โหลดมาลองเองทุกแอปก็คงไม่ไหว วันนี้เราจะรีวิวให้ดูกัน ว่าแอปพลิเคชั่นบันทึกรายรับรายจ่าย 5 อันดับแรกที่คิดอยู่ในหมวด Finance ของ App Store มีดีต่างกันยังไงบ้าง (เลือกมาเฉพาะที่เป็นแอปบันทึกรายรับรายจ่ายเท่านั้น และเป็นข้อมูลในวันที่ 13/03/2020)

review-5-expense-app-1

Metang (อันดับที่ 44)

review-5-expense-app-2

แอปพลิเคชั่นมีภาษาไทยอ่านง่าย แต่อาจจะมีการใช้งานบางส่วนที่ยังงงอยู่บ้าง แต่รวมๆ แล้วใช้ไม่ยากนัก มีฟังก์ชันพื้นฐานครบตามความต้องการ สามารถสร้างได้หลายบัญชี มีกราฟสรุปผลการใช้จ่ายของเราให้ออกมาดูง่าย แบ่ง Category ได้หลากหลาย ทั้งยังสามารถเพิ่มได้เองอีกด้วย แถมยังสามารถสร้างบัญชีบัตรเครดิตได้ สามารถใส่วงเงินของบัตร รวมถึงวันที่ตัดบัตร แถมยังตั้งแจ้งเตือนวันที่ตัดรอบได้อีกด้วย อีกอย่างแอปนี้สามารถบันทึกรายรับรายจ่ายด้วย “เสียง” ได้ด้วยนะ

จุดเด่นของ Metang

  • สามารถบันทึกด้วยเสียงได้
  • สามารถ Export ออกมาเป็นไฟล์ Excel ได้
  • มีกราฟสรุปผลละเอียดและดูได้ง่าย มีตั้งแต่แบ่งเป็น Category ไปจนถึงระดับปี
  • สามารถสร้างบัญชีแบบบัตรเครดิตได้ มีแจ้งเตือนก่อนถึงวันกำหนดชำระด้วย
review-5-expense-app-3

Spendee Budget & Money Tracker (อันดับที่ 68)

แอปนี้ไม่มีภาษาไทย แต่แอปก็ใช้ง่ายมาก UI สวยงาม สามารถสร้างได้หลายบัญชี และแอปนี้สามารถเชื่อมต่อกับธนาคารกรุงศรีได้ด้วยเพื่อดูความเคลื่อนไหวของเงินของเราโดยที่เราไม่ต้องมาแทร็คด้วยตัวเอง (แต่อาจจะต้องมาใส่ Category ด้วยตัวเองนะ) สามารถเพิ่ม Category ได้ มีการสรุปผลที่ค่อนข้างละเอียดแต่ดูง่าย เราสามารถใช้ Tag ในการแบ่งประเภทภายใน Category ใหญ่ของเราได้ด้วย สำหรับคนที่อยากแทร็คให้ได้ละเอียดขึ้น แต่อยากได้รีพอร์ตที่ยังดูง่ายเข้าใจง่าย เราว่าแอปนี้ค่อนข้างตอบโจทย์เลยทีเดียว

และแอปนี้มีฟังก์ชัน Budget หรือ ตั้งงบประมาณให้ตัวเราเองได้ด้วย เช่น เราจะกำหนดว่า เราจะใช้จ่ายในเรื่องช็อปปิ้งในเดือนนี้ไม่เกิน 2,000 บาท เราก็สามารถแทร็คได้ ซึ่งแอปก็จะบอกว่าเรายังใช้ได้อีกกี่บาทภายในเดือนนี้ เป็นต้น

จุดเด่นของ Spendee

  • ส่วนตัวชอบหน้าสรุปผลของ Spendee เพราะกราฟแบ่งดูง่ายมีเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายรายวันแต่ละวันของทั้งเดือนของเราได้ แล้วยังกดดูกราฟแต่ละ Tag ได้ง่ายๆ เลย
  • หน้าตาของแอปใช้ง่ายถึงแม้จะไม่มีภาษาไทย การบันทึกก็ง่าย อาจจะเหนื่อยบ้างตอนติด Tag สำหรับคนที่ต้องการความละเอียด แต่แค่พิมพ์ # แอปก็จะขึ้น Tag ทั้งหมดขึ้นมาให้เราเลือกอยู่แล้ว เลยอาจจะใช้เวลาไม่นานเท่าที่คิด
  • สามารถเชื่อมต่อธนาคารกรุงศรีและ Paypal ได้
review-5-expense-app-5

Money Lover (อันดับที่ 69)

สำหรับแอปนี้ สำหรับเราถือว่ามีฟังก์ชันเยอะที่สุดจากทุกอันที่เราดูมา UI ก็สวยงาม สำหรับการใช้งานพื้นฐานใช้งานได้ง่าย บันทึกได้รวดเร็วเพราะแอปนี้มี Auto Category ให้ ซึ่งฟังก์ชันนี้ก็คือถ้าเราใส่จำนวนเลขเดิมๆ ซ้ำกัน และมีการจัด Category เอาไว้ เมื่อกรอกครั้งถัดๆ ไป มันจะจับ Category ให้เองโดยที่เราไม่ต้องเลือกอีก เช่น เราใส่เลข 50 ไป และเลือก Category ว่า “อาหาร” แล้วในครั้งถัดๆ ไป เราใส่เลข 50 แอปจะเลือก Category “อาหาร” ให้เราเลยโดยที่เราไม่ต้องเลือกอีก เราคิดว่ามันสะดวกดี

นอกจากนี้แอปนี้ยังสามารถสแกนใบเสร็จได้ คือเราจะไม่ต้องกรอกเองว่าเราจ่ายเท่าไหร่ เพียงแค่ถ่ายรูปใบเสร็จก็เรียบร้อยเลย แถมยังสามารถสร้างได้หลายบัญชี สร้างงบประมาณในการใช้เงินได้ และแอปนี้ยังมีฟังก์ชัน งบประมาน หนี้สิน รวมไปถึง โหมดเดินทาง ด้วย

เป็นแอปพลิเคชั่นรายรับ-รายจ่าย ที่เราคิดว่ามีฟังก์ชันที่เยอะที่สุดและครบที่สุด สำหรับบางคนมันอาจจะมากเกินไปจนทำให้ใช้ยาก แต่สำหรับบางคนอาจจะชอบก็ได้

จุดเด่นของ Money Lover

  • มีฟังก์ชันเยอะและครอบคลุมมาก โดยเฉพาะถ้าใครที่มีหนี้สินเยอะๆ เป็นสายทวงหนี้ แอปนี้น่าจะตอบโจทย์ เพราะสามารถบันทึกได้เลยว่าตอนนี้ใครติดหนี้เราอยู่บ้างทั้งหมดเป็นมูลค่าเท่าไหร่
  • อีกอย่างที่เด่นมากและแอปอื่นไม่มีคือ Auto Category ถ้าพิมพ์ตัวเลขเดิมๆ บ่อยๆ แอปจะเลือก Category มาให้เราเองโดยอัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องเลือกเองอีก ช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก
  • อีกอย่างที่แอปอื่นไม่มีคือสแกนใบเสร็จ เพียงแค่ถ่ายภาพใบเสร็จแอปจะบันทึกให้เองเลยว่าเราใช้จ่ายไปเท่าไหร่ แต่ก็ตามเครดิตที่เรามี ซึ่งเครดิตนี้จะมาจากการบันทึกของเรา
review-5-expense-app-7

Piggipo (อันดับที่ 91)

review-5-expense-app-8

Piggipo เป็นแอปที่เน้นไปในด้านบัตรเครดิต เหมาะสำหรับคนที่มีบัตรเครดิตหลายใบและรู้สึกว่าจัดการลำบาก ซึ่ง Piggipo จะช่วยได้ในเรื่องนี้ เราสามารถ sync กับทางธนาคารได้โดยตรงหรือจะใส่แบบ Manual ก็ได้ เราก็จะสามารถดูได้ว่าบัตรใบไหนถึงกำหนดจ่ายเงินวันไหน แต่ละใบมีใช้ไปเท่าไหร่แล้วในที่เดียว รวมถึงมีแจ้งเตือนก่อนครบรอบชำระเงินด้วย นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดจำนวนการใช้ของแต่ละบัตร ซึ่งน้องหมูเนี่ยก็จะแสดงอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป ถ้าใช้เงินใกล้ถึงงบแล้วน้องก็จะร้องไห้ด้วยนะ ต้องดูดีๆ

นอกจากบัตรเครดิตแล้ว ก็ยังสามารถบันทึกรายรับรายจ่ายธรรมดาได้ด้วย แสดงเป็นกราฟสีสันน่ารักดูง่าย รวมไปถึงมีโปรโมชั่นบัตรเครดิตรวมไว้ในที่เดียวอีกด้วย

จุดเด่นของ Piggipo

  • สามารถเชื่อมต่อบัตรเครดิตกับแอปได้ มีแจ้งเตือนวันชำระของบัตรแต่ละใบ ช่วยควบคุมการใช้จ่ายของบัตรเครดิตแต่ละใบในภาพรวมได้ง่ายขึ้น
  • รวมโปรโมชั่นบัตรเครดิตเอาไว้ในที่เดียว ทำให้เราใช้บัตรเครดิตได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
  • มาสคอตน่ารักกกก
  • นอกจากบัตรเครดิตแล้วก็ยังบันทึกรายรับรายจ่ายเงินสดได้อีกด้วย
review-5-expense-app-9

Oh My Cost (อันดับที่ 99)

review-5-expense-app-10

Oh My Cost เป็นแอปบันทึกรายรับรายจ่ายที่หน้าตาและสีสันสดใสที่สุดจากทั้ง 5 แอปที่เรานำมารีวิววันนี้ รวมไปถึงภาพกราฟิกที่น่ารักและหลากหลาย สำหรับเรา Oh My Cost พยายามจะย่อยการบันทึกรายรับรายจ่ายให้เป็นเรื่องง่าย ใช้ภาพเป็นการสื่อแทนการพิมพ์ เพียงแค่เลือกไอค่อน ใส่ราคา เท่านี้ก็เรียบร้อย มีการสรุปผลที่ดูง่าย ฟังก์ชันพื้นฐานครบ สำหรับคนที่ต้องการเริ่มต้นสร้างนิสัยการบันทึกเราว่าแอปนี้เป็นการเริ่มต้นที่น่าจะดี

จุดเด่นของ Oh My Cost

  • สีสันสดใส ไอค่อนน่ารัก
  • ใช้ง่ายมากก เพราะเข้าใจว่าแอปพยายามที่จะย่อยการบันทึกให้ได้ง่ายที่สุด โดยทำให้มีการพิมพ์น้อยที่สุด ใช้เป็นการกดจากไอค่อนแทน
  • น่าจะเป็นการเริ่มต้นการบันทึกรายรับรายจ่ายที่ดี เพราะขั้นตอนการใช้งานน้อย
review-5-expense-app-11

หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยในเรื่องการทำบันทึกรายรับ-รายจ่ายของคนได้ไม่มากก็น้อยนะคะ เพราะยังไงการบันทึกรายรับรายจ่ายก็เป็นพื้นฐานเกี่ยวกับการบริหารเงินที่สำคัญเหมือนกันนะ เราจะได้รู้ได้ว่าตอนนี้เราใช้เงินกับอะไรมากเกินไปแล้ว ควรลดที่ตรงไหนบ้าง เราจะได้มีสติและวางแผนการใช้จ่ายของเราได้ง่ายขึ้นนะ

ส่งต่อเรื่องราวการเงินการลงทุนของคุณ

อ่่านเรื่องราวอื่นๆ

TSF2024