รีวิว
- ตลาดกำลังพัฒนา และเอเชีย แข็งแกร่งที่สุด ในช่วงที่มีการเจรจาการค้า “ขั้นแรก” (Phase one)
- สินทรัพย์ปลอดภัยมีผลการดำเนินงานที่แย่ลง หลังตลาดขยับไปหาสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
- เดือนธันวาคม 2019: พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานที่ชะลอตัวลง ในขณะที่ตลาดกำลังพัฒนาและเอเชียแปซิฟิกมีผลตอบแทนที่ดีที่สุด
- ตั้งแต่ก่อตั้ง: พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าตลาดหุ้นโลก 0.7%
- ตั้งแต่ก่อตั้ง: เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีความผันผวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของความผันผวนตลาดหุ้นโลกเล็กน้อย
- ตั้งแต่ก่อตั้ง: พอร์ตการลงทุนนี้มีการปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดหุ้นโลก ในช่วงเวลาเดียวกัน
มุมมองอนาคต
- การเจรจาการค้า “ขั้นแรก” (Phase one), อัตราดอกเบี้ยที่ยังคงระดับต่ำ และ การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อาจจะหนุนตลาดหุ้น
- แต่มีความตึงเครียดใหม่ สงครามการค้ายังคงไปต่อและความไม่สงบที่นำไปสู่มุมมองที่แย่ลง
- ทองคำ ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รีวิว: ตลาดกำลังพัฒนา และเอเชีย แข็งแกร่งที่สุด ในช่วงที่มีการเจรจาการค้า “ขั้นแรก” (Phase one)
- หุ้นมีมูลค่า Valuation ที่สูง และปัจจัยพื้นฐานของหุ้นบ่งชี้ว่าได้แตะระดับสูงสุดเรียบร้อยแล้ว
- การปรับเปลี่ยนสัดส่วนพอร์ตในเดือนธันวาคม 2019 ของเรา เราเพิ่มเป้าหมายในการลงทุนไปที่ญี่ปุ่น จาก 5% เป็น 25% และลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นประเทศพัฒนาของยุโรปจาก 25% เหลือ 5% และยังคงมีการกระจายการลงทุนในหุ้น 65%
- ญี่ปุ่นมีผลการดำเนินงานที่ดีเป็นอันดับ 3 ในเดือนธันวาคม ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วของยุโรป มีผลการดำเนินงานต่ำที่สุดในประเภทหุ้น
รีวิว: สินทรัพย์ปลอดภัยมีผลการดำเนินงานที่แย่ลง หลังตลาดกลัวความเสี่ยงลดลง
- ในเดือนธันวาคม หุ้นเอเชียและตลาดกำลังพัฒนายังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง เนื่องจากใกล้บรรลุข้อตกลงการเจรจาการค้า “ขั้นแรก” (Phase one) ระหว่างสหรัฐฯ และจีน
- ผลตอบแทนของกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา มีความแข็งแกร่ง หนุนโดย น้ำมัน โลหะอุตสาหกรรม และสินค้าเกษตร
- นักลงทุนกลับมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากกว่าสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำซึ่งมีผลการดำเนินงานไม่ดีในช่วงที่ผ่านมา
รีวิว: เดือนธันวาคม 2019: พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานที่ชะลอตัวลง และตลาดกำลังพัฒนา และ เอเชีย แปซิฟิค แข็งแกร่งที่สุด
รูปที่ 1: รูปเปรียบเทียบผลตอบแทน AWS กับสินทรัพย์อื่น ๆ
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2019 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าหุ้นโลก 0.5%, ญี่ปุ่นนั้นยังมีผลการดำเนินงานที่แย่ ขณะที่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและสินค้าโภคภัณฑ์มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น
- มีสัดส่วนการลงทุน 25% ในญี่ปุ่น สหรัฐฯ และทองคำ
- ทองคำทำผลงานได้ดี ขณะที่สหรัฐฯ และญี่ปุ่นยังไม่ดีนัก
รีวิว: ตั้งแต่ก่อตั้ง: พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าตลาดหุ้นโลก 0.7%
รูปที่ 2: เปรียบเทียบผลตอบแทนระหว่าง AWS และ MSCI World
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2019 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีการกระจายการลงทุนในหุ้น 45% ตั้งแต่จัดตั้ง จนถึงเดือน กันยายน 2019 ได้เพิ่มสัดส่วนเป็น 65% หลังจากนั้น
- การมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่ต่ำกว่าในเชิงเปรียบเทียบ ช่วยลดความรุนแรงของการปรับตัวลงเมื่อเทียบกับกลยุทธ์ที่มีหุ้นเพียงอย่างเดียว
รีวิว: ตั้งแต่ก่อตั้ง: เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีความผันผวนน้อยกว่าตลาดหุ้นโลก
รูปที่ 3: ความผันผวนของแต่ละสินทรัพย์
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2019 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
- ความผันผวนของ พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy คิดเป็นประมาณ 60% ของความผันผวนตลาดหุ้นโลก
- สัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ที่ 25% จนกระทั่งเดือนกันยายน 2019 ช่วยให้ความผันผวนของ พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy ต่ำ
- ทองคำไม่มีความสัมพันธ์กับหุ้น จึงช่วยลดความผันผวนของ พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy
รีวิว: ตั้งแต่ก่อตั้ง: พอร์ตการลงทุนนี้มีการปรับตัวลดลงน้อยกว่าในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ตลาดหุ้นโลกปรับลดลง
รูปที่ 4: ผลดำเนินงานของ 10 วันที่แย่ที่สุดของหุ้นโลก เทียบกับ AWS
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2019 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- ลักษณะที่โดดเด่นของ AWS คือ ตั้งเป้าให้ปรับตัวลงน้อยกว่า ยามตลาดหุ้นโลกปรับตัวลง
- นับตั้งแต่ก่อตั้งพอร์ต เมื่อดูข้อมูลของ 10 วันที่ตลาดหุ้นมีผลตอบแทนย่ำแย่ที่สุด พบว่าผลตอบแทนของ AWS ปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดหุ้นโลกในวันนั้น
มุมมองอนาคต: การเจรจาการค้า “ขั้นแรก” (Phase one) อัตราดอกเบี้ยต่ำ และ การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ จะหนุนตลาดหุ้น
- ประเด็นหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ และประเด็นค่าเงิน เป็นผลบวกต่อทองคำ แต่เป็นความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในสหรัฐฯ อาจยังไม่เกิดขึ้น และหากมีการลดอัตราดอกเบี้ยน่าจะเกิดขึ้นช่วงสิ้นปี 2020 มีโอกาสประมาณ 60% ที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม 2020
- การเจรจาการค้า “ขั้นแรก” (Phase one) ของสหรัฐฯ และจีน สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของหุ้นแข็งแกร่ง ในระยะสั้น
มุมมองอนาคต: แต่มีความตึงเครียดใหม่ สงครามการค้ายังคงไปต่อ และความไม่สงบที่นำไปสู่มุมมองที่แย่ลง
- แม้ว่าการเจรจาการค้า “ขั้นแรก” (Phase one) จะหาข้อสรุปได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสงครามการค้าจะจบ และยังคงมีความไม่แน่นอนต่อไป
- สหรัฐฯ ได้สังหารนายทหารระดับสูงของอิหร่าน ก่อให้เกิดความตึงเครียดอย่างมาก สร้างความกังวลเกี่ยวกับมุมมองการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
- ความไม่สงบในฮ่องกงยังคงมีต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลเชิงลบต่อมุมมองเศรษฐกิจโลกในอนาคตเช่นเดียวกัน
มุมมองอนาคต: ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ความขัดแย้งระหว่าง สหรัฐฯ และ อิหร่าน ส่งให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น แต่ความเสี่ยงนี้เพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถหนุนราคาน้ำมันให้ปรับขึ้นมากนัก เนื่องจากยังมีอุปทานจากที่อื่นอีก
- ในด้านของบริษัท ปัจจัยเชิงพื้นฐานผ่านจุดที่สูงสุดไปแล้ว ซึ่งทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นที่จำกัดเช่นเดียวกัน
- ความตึงเครียดเรื่องสงครามการค้า และความไม่สงบ ส่งผลลบต่อมุมองการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและหุ้น และอาจส่งผลให้นักลงทุนจะหันกลับมาไปให้ความสนใจในสินทรัพย์หลบภัย เช่น ทองคำ
สรุป FVMR แต่ละภูมิภาค
รูปที่ 5: สรุป FVMR หุ้นแต่ละกลุ่มประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2019
(ที่มา: A.Stotz Investment Research, Thomson Reuters)
พื้นฐาน (Fundamentals): หุ้นสหรัฐฯ มีผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ROE (Return on Equity) สูงที่สุด
มูลค่า (Valuations): ตลาดเกิดใหม่มีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) ต่ำที่สุด และญี่ปุ่นมีอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/B ratio) ต่ำที่สุด
แนวโน้ม (Momentum): หุ้นมีผลตอบแทนที่ดี ในปี 2019 และคาดว่า EPS จะฟื้นตัวในปี 2020
ความเสี่ยง: ญี่ปุ่นมีอัตราหนี้สินต่อทุน (Gearing) ต่ำที่สุด
สรุป รีวิวพอร์ต All Weather Strategy ประจำเดือนธันวาคม 2019
- พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานต่ำกว่าตลาดหุ้นโลกเล็กน้อย
แต่มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่ามาก โดยเป็นผลจากสัดส่วนการลงทุนที่สูงในทองคำและตราสารหนี้ - หุ้นมีปัจจัยหนุนในระยะสั้น และเรามีเป้าหมายสัดส่วนการลงทุนที่ 65% ในหุ้น โดยให้น้ำหนัก (Overweight) ที่หุ้นญี่ปุ่นด้วย
- ความสงบยังคงมีต่อ และการเพิ่มขึ้นของความขัดแย้งของสหรัฐฯ และอิหร่าน ส่งผลให้เรายังสนใจทองคำอยู่
Andrew Stotz
**สนใจลงทุนพอร์ต All Weather Strategy พอร์ตกองทุนรวมจัดโดย Andrew Stotz ซึ่งจะช่วยให้เราได้ผลตอบแทนจากหุ้นในระยะยาว ในขณะที่ลดความรุนแรงของการขาดทุนในช่วงภาวะตลาดขาลง หากสนใจดูข้อมูลและลงทุนในพอร์ตนี้ สามารถคลิกที่นี่ https://www.finnomena.com/port/andrew/ หรือแบนเนอร์ข้างล่างได้เลยครับ
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้