“หากคุณเห็นด้วยกับความเห็นของคนหมู่มาก คุณจะไม่สามารถทำเงินได้”
นี่คือคำแนะนำของ เรย์ ดาลิโอ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุน เขาผู้นี้คือผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Bridgewater Associates ซึ่งมีสินทรัพย์มูลค่ากว่า $169 พันล้านภายใต้การดูแล
เขาบอกว่า หากทำตามคนอื่น ก็จะได้ผลลัพธ์แบบธรรมดา ๆ ตามค่าเฉลี่ย สำหรับดาลิโอนั้น การที่เราจะสามารถสร้างความมั่งคั่งได้แบบ “สุดๆ” เหนือทุกคนนั้น คือการทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ หรือ ไม่สามารถทำ ในขณะเดียวกันก็ต้องเป็นทางที่ถูกต้องด้วย
ฟังดูเหมือนง่าย แต่จริง ๆ แล้วไม่ง่ายเลย เพราะจากสถิติแล้ว มีนักลงทุนมืออาชีพตั้ง 86% ที่ไม่สามารถชนะตลาดได้ ฝั่งผู้ประกอบการก็เหมือนกัน มีธุรกิจตั้ง 30.9-37.6% ที่เจ๊งภายใน 3 ปีแรกหลังก่อตั้ง
แต่ข่าวดีคือ เราสามารถฝึกฝนการเป็น “ชาวสวน” ให้สร้างผลลัพธ์ที่เราคาดหวังได้
วิธีการเป็น “ชาวสวน” ให้ประสบความสำเร็จ
การเป็นชาวสวนนั้นไม่ใช่แค่คิดต่างแล้วจะเป็นได้ง่าย ๆ ลองมาดูกันว่าจะเป็นชาวสวนที่ดีได้นั้นต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
1. กล้าที่จะสวนคนกลุ่มใหญ่
เป็นเรื่องปกติที่เราอยากจะ “กลมกลืน” ไปกับสังคม ฉะนั้นการยืนขึ้นสวนคนส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องยาก แต่ไม่ต้องห่วงเพราะความกล้าหาญสามารถฝึกกันได้!
อย่าว่าแต่การตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆ เลย ในชีวิตประจำวันปกติเราก็อาจจะเจอเรื่องเล็ก ๆ ที่อาจทำให้เรารู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายใจในสังคม แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ส่งผลกระทบด้านร้ายอะไร ตัวอย่างอาจจะเป็นการยกมือแสดงความคิดเห็นในห้องเรียน / ที่ประชุม ในประเด็นที่คนอื่น ๆ เห็นพ้องต้องกัน แล้วเรามีไอเดียที่แตกต่าง
2. มีหนทางเข้าถึงข้อมูล หรือเข้าใจข้อมูลที่คนอื่นไม่มี
หนึ่งในวิธีที่จะสวนคนอื่นให้ประสบความสำเร็จคือการมีข้อมูลที่คนอื่นไม่มี และนี่คือ 4 วิธีที่จะทำให้เราได้ข้อมูลเด็ด ๆ
2.1 สร้างความสัมพันธ์กับผู้คนที่บรรลุเป้าหมายแบบที่เราต้องการ
เมื่อไรก็ตามที่เราสร้างความสัมพันธ์ด้วยพื้นฐานที่มาจากความเชื่อใจและความเคารพ ผู้คนก็จะอยากให้เราประสบความสำเร็จ ฉะนั้นพวกเขาก็จะแบ่งปันข้อมูลลับ ๆ ที่อาจจะไม่ได้บอกใครที่ไหน จุดสำคัญคือเราควรใช้ใจแลกใจจริง ๆ ไม่ใช่การเข้าหาแบบผิวเผินเพื่อหวังผล ด้วยเหตุนี้เราจึงนักลงทุนหลายคนมีสังคมการลงทุนเป็นกลุ่ม ๆ ไป ยิ่งสนิทกันมากเท่าไร ก็มีโอกาสได้ข้อมูลเด็ด ๆ มากขึ้นเท่านั้น
2.2 เรียนรู้จากคนในแวดวงอื่น ๆ และนำข้อมูลนั้นมาประยุกต์ใช้
ส่วนใหญ่คนมักจะโฟกัสการเรียนรู้ในแวดวงของตัวเอง แม้ว่าแวดวงอื่น ๆ จะมีข้อมูลน่าสนใจที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ เช่น คุณอาจจะเป็นนักลงทุนที่เก่งมาก แถมยังมีความรู้เรื่องเทคโนโลยี คุณก็จะกลายเป็นนักลงทุนที่ใช้ประโยชน์จาก Machine Learning ได้ การเป็นผู้เชี่ยวชาญในแวดวงของตัวเอง แต่ขณะเดียวกันก็รอบรู้ในแวดวงอื่น ๆ ด้วยนั้นจะช่วยให้เรามีมุมมองสดใหม่ที่ไม่เหมือนใคร
2.3 อย่าทำแค่การทดลอง ให้สร้างห้องทดลองไปเลย
การทดลองคือการทดสอบแค่ไอเดียหนึ่งไอเดีย แต่การสร้างห้องทดลองนั้นจะทำให้คุณได้ทดลองหลาย ๆ ไอเดีย ซ้ำอีกหลาย ๆ ครั้ง ซึ่งการเรียนรู้นี้ก็จะช่วยให้ได้ข้อมูลใหม่ ๆ ที่จะกลายเป็นจุดแข็งของเรา ผู้ประกอบการที่มองธุรกิจตัวเองเป็นเพียงการทดลองไอเดียเดียวนั้นมีความเสี่ยงที่จะล้มเหลวมากกว่าผู้ประกอบการที่มองธุรกิจตัวเองเป็นห้องทดลอง เพื่อทดสอบหลาย ๆ ไอเดีย
2.4 สามารถดึงความรู้ของคนอื่น ๆ ออกมาได้
คนเก่ง ๆ หลายคนไม่สามารถอธิบายได้ว่าพวกเขาทำแบบที่เขาทำได้อย่างไร ฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องหาทางเค้นเคล็ดลับของพวกเขาออกมาให้ได้ ด้วยการถามคำถามที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น คุณ Peter Thiel นักลงทุนสายเทคฯ มักจะถามเจ้าของกิจการที่เขาสนับสนุนเงินทุนว่า “อะไรคือสิ่งที่คุณเชื่อมั่นสุด ๆ ในขณะที่ไม่มีคนอื่นเชื่อเลย”
3. มีวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
มหาเศรษฐีหลายคนมีวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น คุณ Charlie Munger คู่หูนักลงทุนของ Warren Buffett นั้นจะเน้นการวิเคราะห์ว่ามีสาเหตุอะไรที่จะทำให้ล้มเหลวได้บ้าง เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น ส่วน Elon Musk ใช้ “ต้นไม้ตัดสินใจ (Decision Tree)” เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น โดยจะเป็นการระบุอย่างชัดเจนว่าทางเลือกนี้มีโอกาสสำเร็จหรือล้มเหลวเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ละผลลัพธ์จะส่งผลกระทบมากน้อยแค่ไหน
ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์ที่จะทำให้คุณกลายเป็น “ชาวสวน” ได้อย่างมั่นใจ และเพิ่มโอกาสสร้างความมั่งคั่งจากความแตกต่างที่คนอื่น ๆ มองไม่เห็นนี้ ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ
ข้อมูลอ้างอิง
Medium
สร้างความมั่งคั่ง ผ่านแผนลงทุนในกองทุนรวมด้วยแอป LINE ได้ง่ายๆ ผ่านมือถือ คลิกเลย!
https://www.finnomena.com/line/intro