ช่วงเดือนมีนาคมเราได้ออกพอร์ต All Weather Strategy ร่วมกับทาง FINNOMENA ในบทความนี้เราจะมาอัปเดตผลการดำเนินงานของพอร์ต ประจำเดือนกรกฎาคม 2019 กัน รวมถึงมุมมองต่อตลาดด้วยครับ
ก่อนอื่นผมขอทบทวนแนวคิดหลักของพอร์ต All Weather Strategy ก่อน
All Weather Strategy สามารถสรุปรวมได้เป็น 3 ตัวอักษรหลักๆ คือ GLD
Global – ลงทุนทั่วโลก ไม่เฉพาะแค่ในประเทศไทย
Long-term – ได้ผลตอบแทนจากหุ้นระยะยาว ในขณะที่ลดความเสี่ยงของหุ้นบางส่วน
Diversified – กระจายการลงทุนไปทั่วโลก ในสินทรัพย์ 4 ประเภท
รีวิวพอร์ต All Weather Strategy
- สัดส่วนหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 45%
- กรกฎาคม 2019: สัดส่วนอย่างละ 25% ในสินทรัพย์ที่โดดเด่น
- ตั้งแต่จัดตั้งพอร์ต: พอร์ต All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกันกับหุ้นโลก
- ตั้งแต่จัดตั้งพอร์ต: มีความผันผวนประมาณสองส่วนสามของหุ้นโลก
- ตั้งแต่จัดตั้งพอร์ต: ปรับตัวลงน้อยกว่า ในช่วงที่หุ้นโลกร่วง
มุมมองต่ออนาคต
- ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง สามารถส่งผลดีต่อหุ้นและตลาดเกิดใหม่ได้
สรุป FVMR หุ้นแต่ละภูมิภาค
มาเริ่มกันที่ประเด็นแรกเลยครับ
สัดส่วนหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 45%
- หุ้นยังคงแพง และปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ดูเหมือนจะถึงจุดสูงสุดแล้ว
- ตราสารหนี้และทองคำน่าจะช่วยจำกัดการปรับตัวลงของพอร์ต All Weather Strategy ไว้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำได้ดี
- AWS มีสัดส่วนอย่างละ 25% ในทองคำ หุ้นสหรัฐฯ และตราสารหนี้ ซึ่งสามสิ่งนี้เป็นสินทรัพย์ที่โดดเด่นในเดือนกรกฎาคม
กรกฎาคม 2019: สัดส่วนอย่างละ 25% ในสินทรัพย์ที่โดดเด่น
รูปที่ 1: ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 เดือนของ AWS เทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ คำนวณ ณ วันที่ 31 ก.ค. 2019 (ที่มา: A.Stotz Investment Reseach, Refinitiv)
- ผลการดำเนินงานของ AWS น้อยกว่าหุ้นโลกอยู่ 0.5% ในเดือนกรกฎาคม 2019
- วางสัดส่วนอย่างละ 25% ในสินทรัพย์ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นอย่างทองคำ หุ้นสหรัฐฯ และตราสารหนี้
- ตั้งแต่จัดตั้งพอร์ต: พอร์ต All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกันกับหุ้นโลก
- นับตั้งแต่จัดตั้งพอร์ต All Weather Strategy ลงทุนในหุ้นเป็นสัดส่วน 45% มาโดยตลอด
- การมีสัดส่วนหุ้นที่ค่อนข้างต่ำได้ส่งผลดี เพราะช่วยให้พอร์ตปรับตัวลงน้อยกว่าการถือหุ้นเพียงอย่างเดียวในพอร์ต
ตั้งแต่จัดตั้งพอร์ต: พอร์ต All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกันกับหุ้นโลก
รูปที่ 2: เปรียบเทียบผลตอบแทนระหว่าง AWS และ MSCI World คำนวณ ณ วันที่ 31 ก.ค. 2019 (ที่มา: A.Stotz Investment Reseach, Refinitiv)
*ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต*
- นับตั้งแต่จัดตั้งพอร์ต All Weather Strategy ลงทุนในหุ้นเป็นสัดส่วน 45% มาโดยตลอด
- การมีสัดส่วนหุ้นที่ค่อนข้างต่ำได้ส่งผลดี เพราะช่วยให้พอร์ตปรับตัวลงน้อยกว่าการถือหุ้นเพียงอย่างเดียวในพอร์ต
ตั้งแต่จัดตั้งพอร์ต: มีความผันผวนประมาณสองส่วนสามของหุ้นโลก
รูปที่ 3: ความผันผวนของแต่ละสินทรัพย์ คำนวณ ณ วันที่ 31 ก.ค. 2019 (ที่มา: A.Stotz Investment Reseach, Refinitiv)
ตราสารหนี้: ตัวช่วยหลักที่ทำให้ AWS มีความผันผวนต่ำ
S&P500: ผันผวนน้อยสุดในกลุ่มตลาดหุ้นด้วยกัน
ทองคำ: ที่ผ่านมานี้เริ่มมีความผันผวนขึ้น
ตั้งแต่จัดตั้งพอร์ต: ปรับตัวลงน้อยกว่า ในช่วงที่หุ้นโลกร่วง
รูปที่ 4: ผลดำเนินงานของ 10 วันที่แย่ที่สุดของหุ้นโลก เทียบกับ AWS คำนวณ ณ วันที่ 31 ก.ค. 2019 (ที่มา: A.Stotz Investment Reseach, Refinitiv)
- คุณสมบัติที่สำคัญของ AWS คือ มุ่งหวังที่จะขาดทุนน้อยกว่า ยามตลาดหุ้นร่วง
- เมื่อดู 10 วันที่แย่ที่สุดของหุ้นโลก นับตั้งแต่จัดตั้งพอร์ต AWS เราจะเห็นได้ว่า AWS ได้ขาดทุนน้อยกว่าในทุกๆ ครั้ง เป็นเพราะสัดส่วนหุ้นที่ถือไม่เยอะ
มุมมองต่ออนาคต: ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง สามารถส่งผลดีต่อหุ้นและตลาดเกิดใหม่ได้
- ดูเหมือนว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะไม่ได้อยู่ในจุด “พักรบ” เสียแล้ว เมื่อทรัมป์ขู่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ มูลค่าประมาณ 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- ประธาน Powell ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps สู่ระดับ 2%
- การลดอัตราดอกเบี้ยควรส่งผลให้เกิดความคาดหวังว่าดอลลาร์จะอ่อนตัวลง แล้วหนุนทองคำ
- เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าอาจเป็นผลบวกต่อตลาดเกิดใหม่ เพราะทำให้หนี้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกลง และอาจทำให้เงินไหลออกจากสหรัฐฯ
สรุป FVMR หุ้นแต่ละภูมิภาค
รูปที่ 5: สรุป FVMR หุ้นแต่ละกลุ่มประเทศ คำนวณ ณ วันที่ 31 ก.ค. 2019 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Thomson Reuters)
พื้นฐาน (Fundamentals): สหรัฐฯ มี ROE (Return on Equity) สูงสุด
มูลค่า (Valuations): ญี่ปุ่นมี PE (Price to Earnings) และ PB (Price to Book) ต่ำสุด
แนวโน้ม (Momentum): ที่ผ่านมานี้แนวโน้มราคาและกำไรดูไม่ดี
ความเสี่ยง (Risk): อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำสุดในญี่ปุ่น
สรุปรีวิวพอร์ต All Weather Strategy ประจำเดือนกรกฎาคม 2019
- เรายังคงระมัดระวังการลงทุนในหุ้น และยังติดตามเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
- Fed ลดอัตราดอกเบี้ยไป 25bps สู่ระดับ 2% ในเดือนกรกฎาคม
- การลดอัตราดอกเบี้ยจะนำไปสู่การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ซึ่งสามารถกระตุ้นราคาทองคำได้
- การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
Andrew Stotz
**สนใจลงทุนพอร์ต All Weather Strategy พอร์ตกองทุนรวมจัดโดย Andrew Stotz ซึ่งจะช่วยให้เราได้ผลตอบแทนจากหุ้นในระยะยาว ในขณะที่ลดความรุนแรงของการขาดทุนในช่วงภาวะตลาดขาลง หากสนใจดูข้อมูลและลงทุนในพอร์ตนี้ สามารถคลิกที่นี่ https://www.finnomena.com/port/andrew/ หรือแบนเนอร์ข้างล่างได้เลยครับ
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้