ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่นัก กับการปรับฐานกว่า 0.85% (ลึกสุด 1.4%) เพราะมันเป็นการปรับฐานใหญ่ครั้งแรกหลังจากที่ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นกว่า 8.5% ในช่วง 30 วันทำการที่ผ่านมา แต่ที่น่าสนใจคือ…

– เมื่อวานบัญชีซื้อขายเพื่อบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1.7 พันล้านบาท (เป็นการขายมากที่สุดตั้งแต่ต้นปี) ถือเป็นการขายที่มีนัยสำคัญหลังจากที่ซื้อสุทธิมาอย่างต่อเนื่อง 1.1 หมื่นล้านบาทตั้งแต่ มิ.ย.62

– คาดว่าการขายสุทธิของบัญชีซื้อขายเพื่อบริษัทหลักทรัพย์ หลักๆจะมาจากการขายของ Block Trade ซึ่งน่าจะประกอบไปด้วย การขายเพื่อเปิดสถานะใหม่ การขายเพื่อปิดทำกำไร และการขายเพื่อตัดขาดทุน โดยภาพรวมของสถานะคงค้าง (OI) ของ Single Stocks Futures ปรับลดลงเพียง 0.73% ดังนั้นการขายของบัญชีซื้อขายเพื่อบริษัทหลักทรัพย์วานนี้อาจตีความได้ว่า Block Trade เริ่มเปิดสถานะ Short เพิ่ม

– อย่างไรก็ตามวงเงินรวมของ Block Trade ทั้งระบบยังค้างอยู่ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท ห่างไกลจากยอด 5.2 หมื่นล้านบาทเมื่อ ก.พ.61 อยู่มาก พื้นที่ในการขยายวงเงินยังมีอีกเยอะ และคาดว่าจะเน้นไปที่หน้า Long มากกว่า ซึ่งจะเป็นปัจจัยทรงอิทธิลที่จะทำให้ SET Index ดีดตัวขึ้นในระยะถัดไปสู่ 1,800 จุดอีกครั้ง

– โรงไฟฟ้าทั้ง IPP SPP รวมไปถึงกลุ่มพลังงานทดแทน วานนี้โดนจัดหนักกันถ้วนหน้า ราคาหุ้นเจอแรงขายทำกำไรหนักหน่วง พร้อมกับข่าวตามหลังมาเรื่อง 1. ผู้ตรวจการฯร้องให้ ก.พลังงานทบทวนแผน PDP เพื่อให้รัฐต้องเป้นผู้ผลิตไฟฟ้ามากกว่า 51% และ 2. การที่พลังงานจะทบทวน AEDP ลดสัดส่วนของโซลาห์รูฟท็อบ และเพิ่มสัดส่วนของโซลาห์ฟาร์ม

– ประเด็นที่ 2 ไม่ใช่เรื่องลบอะไร แต่ที่ตลาดสนใจคงหนีไม่พ้นประเด็นที่ 1 ซึ่งสร้างความกังวลให้กับตลาด เนื่องจากตามแผน PDP 2018 กำลังการผลิตของรัฐจะเหลือ 30% เอาจริงๆมันก็เป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของผู้ตรวจการฯที่จะต้องยื่นเรื่องให้ทบทวน แต่เอาเข้าจริงก็ยังมีอีกหลายกระบวนการในการตีความ และเป็นการยากที่จะมีการปรับแผนไปจากเดิม

– ทั้งนี้หากเกิดกรณีต้องปรับแผนขึ้นมา พวกโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) อย่าง GULF RATCH จะได้รับผลกระทบมากที่สุด หรือหุ้นที่คาดหวังจะได้ PPA ใหม่ GULF CKP RATCH แต่ในส่วนของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก SPP และพลังงาน ได้รับผลกระทบจำกัดมาก

– ที่น่าสนใจคือ BCPG ปรับลงรุนแรงกว่า 8% ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากปัจจัยลบเฉพาะตัว เพราะที่แรงกกว่าชาวบ้านเพราะมีแรงขายตัดขาดทุนจาก Block Trade ผสมโรง ซึ่งดูได้จากวงเงิน Block ของ BCPG ลดลงกว่า 43% เหลือเพียง 257 ล้านบาท (แสดงว่ามีการตัดขาดทุนรุนแรง) ขณะที่โรงไฟฟ้าอย่าง GULF วงเงินลดลง 6% เท่านั้น (เหลือ 766 ล้านบาท)

หมายเหตุ : เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุนและไม่เกี่ยวข้องกับต้นสังกัดของผู้เขียน

ประกิต สิริวัฒนเกตุ
5 ก.ค.2562

ที่มาบทความ : https://www.facebook.com/prakitsiriwattanaket/posts/2488920344670563

——————————–
คำเตือน
“ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน”

TSF2024