ข่าวเด่นข่าวร้อนที่กำลังเป็นกระแสเมื่อช่วงหลายปีที่แล้ว เมื่อ Disney ประกาศแยกทางกับ Netflix พาร์ทเนอร์คู่หูบนธุรกิจประเภท Streaming Media และเมื่อวัน 11 เมษายนที่ผ่านมา ทาง CEO ของ Disney หรือคุณ Bob Iger ประกาศปล่อยสื่อ Streaming ของตัวเองที่ชื่อว่า Disney Plus (หรือเรียกว่า Disney+) ที่จะรวบรวมทั้งภาพยนตร์และรายการทีวีของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นหนังยอดฮิตตลอดกาลอย่าง Star Wars และหนังสายซุปเปอร์ฮีโร่มาแรงอย่าง Marvel ที่ทาง Disney+ จะมาปรากฎในวันที่ 12 พฤศจิกายน ปี 2562 นี้ พูดได้ว่างานนี้ Netflix จะต้องร้องไห้แน่ๆ ที่ภาพยนตร์ของ Disney จะต้องถูกถอนจาก streaming ของตัวเอง แถมคู่แข่งรายใหญ่ก็กำลังมาในตลาดนี้
ยกที่ 1: ราคาที่ถูกกว่าครึ่ง
แค่นั้นยังไม่พอสำหรับการประกาศช่อง streaming ใหม่จาก Disney ที่ทำให้ Netflix ขาดพาร์ทเนอร์ที่สำคัญไปแล้ว ราคาที่ Disney ตั้งก็หั่นกันยับเลยค่ะ เพราะราคาที่คนต้องจ่ายสำหรับการดู Disney+ ก็ถูกกว่า Netflix มากกว่าเท่านึงเลย ซึ่งราคาก็อยู่ที่ 6.99 ดอลล่าร์ต่อเดือน ถ้าเทียบกับ Netflix ที่ตั้งราคา Basic ต่ำสุดอยู่ที่ 8.99 ดอลล่าร์ต่อเดือน เรียกว่า Netflix ต้องร้อนๆ หนาวๆ กับราคาถูกแสนถูกของ Disney+ แถมทางคุณ Kevin Mayer ที่มีตำแหน่งเป็น Disney Chairman ฝ่าย direct-to-consumer and international business ได้ออกมาเปรยๆ ว่าทาง Disney “อาจจะ” ตั้งราคาที่ถูกกว่านี้อีกด้วย ซึ่ง Disney+ สามารถดาวน์โหลดได้ในช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Roku และ PlayStation 4 รวมไปถึงสมาร์ททีวี แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และอื่นๆ
ยกที่ 2: เอาใจแฟนคลับ Disney หน่อย
ความพิเศษของ Disney+ ก็คือการปล่อย 9 รายการพิเศษที่จัดทำขึ้นโดย Disney ที่อัดแน่นด้วยดาราในสังกัดสุดพิเศษ เริ่มต้นด้วยรายการ MCU ทีวีโชว์ใหม่นำโดย Tom Hiddleston (หรือ “โลกิ” จาก Thor) และรายการ live-action จากซีรีส์ Star Wars และรายการอื่นๆ อีกมากมายที่จะตามมาภายหลัง รวมไปถึงรายการทั่วไปของ Disney ที่จะฉายใน Disney+ เช่นเดียวกัน เช่นภาพยนต์ประมาณ 500 เรื่องจากคลังภาพยนตร์ Disney หรือรายการโทรทัศน์อีกประมาณ 7,000 รายการ และรายการที่เรียกว่าเป็นซิกเนเจอร์ของ Disney เช่น อะลาดิน กวางน้อย…แบมบี้ และเดอะไอล้อนคิง เรียกได้ว่าขนกันมายกโขยงให้แฟนคลับ Disney ได้เสพกันยาวๆ นั่นเอง
ยกที่ 3: มีความหลากหลายที่เหมือนกัน
นอกเหนือไปกว่านั้น ทาง CEO หรือคุณ Bob Iger ก็ได้เปิดเผยว่า Disney ก็มีการซื้อสื่ออื่นๆ จากแหล่งข้างนอกเหมือนกัน ไม่ได้มีแค่สื่อที่ผลิตจาก Disney อย่างเดียว แสดงว่าความหลากหลายของสื่อจะอยู่ในมาตรฐานเดียวกันกับ Netflix และ Hulu ดังนั้นแฟนคลับสายเสพ streaming ไม่ต้องเบื่อช่องที่มีแต่รายการ Disney อีกต่อไป รายการอื่นๆ ก็ยังมีให้รับชมอยู่นะจ้ะ
แต่แฟนคลับเมืองไทยต้องรอไปก่อนนะคะ เพราะว่าโปรเจคนี้จะเริ่มที่ประเทศสหรัฐฯ ก่อน แล้วค่อยๆ ขยายไปยังต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีวันที่กำหนดแน่ชัดค่ะ
ซึ่งในอนาคต นอกจากจะกระทบกับตลาดเดียวกันแล้ว ทั้งนี้ก็อาจจะกระทบกับวงการภาพยนตร์ไม่มากก็น้อย สาเหตุมาจากลักษณะอุปสงค์ (Demand) ระหว่างภาพยนตร์กับช่อง Streaming ต่างๆ มีความแตกต่างกัน เพราะหนังฟอร์มยักษ์จะเริ่มฉายที่โรงภาพยนตร์ก่อนที่จะเข้าที่แพลตฟอร์มอื่นๆ คนส่วนใหญ่ก็อยากจะเข้าไปดูที่โรงหนังก่อนเพื่อป้องกันการสปอยล์จากบุคคลรอบข้าง หรือเพื่อรับชมเต็มความอรรถรส ทั้งนี้ทั้งนั้นทาง Disney ยังไม่ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับการระยะเวลาของการปล่อยสื่อในแพลตฟอร์ม ถ้าเกิดว่า Disney อยากเล่นตลกโดยการปล่อยหนังลง Disney+ ในช่วงระยะใกล้ๆ กับการฉายบนจอภาพยนตร์ Disney จะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวอีกรายที่อาจส่งผลกระทบให้กับโรงภาพยนตร์หลายรายพอสมควรเลยค่ะ
ที่มา: https://www.tomsguide.com/us/disney-streaming-faq-price-release-date,news-27711.html
https://www.cnet.com/news/disney-plus-streaming-service-release-date-shows-movies-to-expect-investor-day-hawkeye-marvel-reality-documentary/