ทุกวันนี้เทรนด์สุขภาพเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้นเรื่อยๆ
มีการศึกษาจาก HFA ว่าคนยุค MILLENNIALS (คนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2520-2543) โฟกัสกับการรักษาสุขภาพแบบรายวันมากกว่าคนยุคก่อนๆ เช่นการกินอาหารที่ดี ออกกำลังกายเป็นประจำ การรักษาสุภาพจิตที่ดี
แต่ที่น่าสนใจคือ ทำไมร้าน After U ที่ต้านกระแสนี้กลับขายดิบขายดีมาก??
วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับร้าน After U ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยโดยใช้ Ticker ว่า AU กัน
AU มี Market Cap หรือ มูลค่าตามราคาตลาด ประมาณ 10,000 ล้านบาท
ถ้าเปรียบเทียบคือมี Market Cap ประมาณ MALEE และสูงกว่า TIPCO เสียด้วยซ้ำ
ซึ่งทั้ง 2 นี้ถือเป็นบริษัทเก่าแก่ที่เป็นผู้นำน้ำผลไม้ ถือว่าอยู่ในกระแสรักสุขภาพเต็มๆ คำถามคือทำไมบริษัทที่สวนกระแสสุขภาพกลับมีมูลค่ามากกว่าบริษัทที่อยู่ในกระแส?
คำตอบคือ คุณภาพการออกสินค้าของ AU ที่สูงและยากต่อการลอกเลียนแบบ
ที่ผ่านมาเราได้เห็นต้นกำเนิดของขนมปังอบใส่ไอศกรีมหรือ “ฮันนี่โทสต์” (Honey Toast) ที่ AU เป็นคนคิดค้นขึ้น
หลังจากนั้นน้ำแข็งใสจากญี่ปุ่นหรือ “คากิโกริ” (Kakigori) ก็ได้รับความนิยมในไทยสูงมากก็เพราะ AU
รวมทั้งยังมีออกสินค้าใหม่ๆ ที่ปังๆ หลายตัวอย่าง After U ทุเรียน น้ำปั่นตามฤดูกาล คากิโกริชาเขียว
และที่สำคัญคือ คู่แข่งเข้ามาทำตามเยอะมากแต่ยังไม่มีใครที่ทำแล้วปังกว่า After U เลย
เวลา AU ออกสินค้าอะไรก็ตาม จะเกิดเป็นกระแสทันที คนจะแห่กันถ่ายรูปลงอินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก
นี่เป็นการทำการตลาดโดยใช้ตัวลูกค้าเองโดยที่ AU ไม่ต้องลงทุนค่าใช้จ่ายทางการตลาดมากมายอะไรเลย
ที่ผ่านมาหุ้น AU ไปทำ Low 7.10 บาทในวันที่ 1/8/2560 ในปัจจุบันหุ้นได้ขึ้นมาอยู่ประมาณ 14 บาท ถือว่าขึ้นมาเยอะมาก
สาเหตุของการขึ้นในครั้งนี้คือ AU มีการออกสินค้าใหม่ใน Q3 2560 คือคากิโกริชาเขียวที่ได้รับความนิยมดีมาก และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง ทำให้ผลประกอบการดีขึ้นมากจากปีที่แล้วในช่วงเดียวกัน เพราะปีก่อนหน้ามีฐานที่ต่ำเนื่องจากมีเหตุการณ์เมื่อเดือนตุลาคม
อีกอย่างที่น่าสนใจสำหรับ AU คือการเติบโตที่สูง
ก่อนเข้าตลาด (หรือในปี 2556) มีกำไรประมาณ 4 ล้านบาท ผ่านไป 3 ปี AU มีกำไรในรอบ 9 เดือน 2560 ถึง 94 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตของกำไร 2,250%
ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า 60% และอัตรากำไรสุทธิเกิน 20% ในไตรมาส 3 แสดงถึงอัตราการทำกำไรที่ดี
เนื่องจากสินค้าที่ออกมาใหม่ AU จะคำนึงถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงอีกด้วย
นี่คือความเก่งของ AU ที่แม้จะเป็นบริษัทที่ไม่ได้อยู่ในกระแสแต่ก็สามารถขายดิบขายดีและเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรก็ไม่ใช่ปัจจัยเพียงอย่างเดียวที่ควรพิจารณา ผู้ลงทุนควรศึกษาปัจจัยหลายๆ อย่างเพื่อประกอบการตัดสินใจนะครับ
———————
ค้นหาหุ้นและดูงบการเงินย้อนหลัง 10 ปี
พร้อมกราฟราคาได้ที่ FINNOMENA Stock Quote (Beta)
https://www.finnomena.com/stock/
——————————
ตรวจสอบและแก้ไขโดย Vithan Minaphinant
Securities Investment Analyst (IA)
——————————
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ผู้เขียนบทความนี้มิไม่ได้รับค่าตอบแทนหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทที่กล่าวถึงในบทความนี้แต่อย่างใด
ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
http://www.teamhfa.com/…/7-ways-millennials-are-changing-h…/
http://whatis.techtarget.com/…/millennials-millennial-gener…
https://www.set.or.th/set/companyhighlight.do…
https://www.set.or.th/set/companyhighlight.do…
https://www.set.or.th/set/companyhighlight.do…
http://market.sec.or.th/…/…/th/FinancialReport/FS-0000024638