ทุกสิ้นปีงบประมาณ ทุกบริษัทจะต้องมีจัดทำ งบการเงิน เพื่อจะส่งให้ผู้ถือหุ้นรับทราบ งบการเงินจะนำเสนอข้อมูลเพื่อแสดงฐานะทางการเงินผลการดำเนินงานของบริษัท งบการเงินต้องจัดทำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
บริษัทจะต้องนำเสนอข้อมูลดังต่อไป นี้คือ สินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ รายได้ ค่าใช้จ่าย และกระแสเงินสด ข้อมูลเหล่านั้นจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งบการเงินในการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจ และสามารถแสดงถึงผลการบริหารงานของฝ่ายบริหาร ซึ่งได้รับความไว้วางใจให้ดูแลทรัพยากรของกิจการ ถ้างบการเงินไม่ดี จะจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้งบการเงินกลับมาดีในอนาคต
คนทำงานทุกคนก็เหมือนกับบริษัท มีรายได้ รายจ่าย ซื้อบ้านเป็นสินทรัพย์ กู้เงินเป็นหนี้สิน เราก็ควรจะมีการจัดทำงบการเงินส่วนบุคคลเพื่อที่เราจะรู้ว่า เราบริหารจัดการเงินเราได้ดีแค่ไหน เรามีความมั่งคั่งเท่าไร งบตัวแรกที่ทุกคนควรจะทำตอนสิ้นปี หรือ ทุก ๆ 6 เดือน คือ งบของความมั่งคั่ง หรือ งบดุลส่วนบุคคล มีอะไรบ้างในดูตามรูปข้างล่าง
ตัวอย่างเช่น
แบ่งประเภทของสินทรัพย์ได้ดังนี้
- สินทรัพย์สภาพคล่อง คือ เงินสด
- สินทรัพย์เพื่อการลงทุน เช่น กองทุน ตราสารประเภทต่างๆ เช่นหุ้น ตราสารหนี้ และ ประกันแบบออมทรัพย์และแบบควบการลงทุน (คิดมูลค่าเงินสด) ที่ดิน คอนโดให้เช่า(ที่ไม่ได้อยู่เอง)
- สินทรัพย์ส่วนตัว เช่น บ้าน รถ เครื่องประดับ
แบ่งประเภทของหนี้สิ้นได้ดังนี้
- หนี้สินระยะสั้น (ไม่เกิน 1 ปี) เช่น หนี้บัตร credit หนี้ผ่อนเครื่องใช้ต่างๆ
- หนี้ระยะยาว เช่น บ้าน คอนโด รถ
หาความมั่งคั่งสุทธิจาก สินทรัพย์รวม – หนี้สิน
ที่สำคัญจะรู้ได้อย่างไรว่า สุขภาพทางการเงินของเราดี?
สามารถตรวจสอบได้ 3 หัวข้อใหญ่ดังนี้
โดยการตรวจสอบจะต้องใช้ข้อมูลจากงบรายรับรายจ่าย
สภาพคล่อง
- สินทรัพย์สภาพคล่อง / หนี้สิ้นระยะสั้น จะต้องมากกว่า 1
- สินทรัพย์สภาพคล่อง / ค่าใช้จ่ายต่อเดือน ควรจะมากกว่า 6
หนี้สิน
- หนี้สินรวม / สินทรัพยรวม < 50%
- รายจ่ายการชำระหนี้ / รายได้ต่อเดือน < 35%-45%
ความมั่งคั่ง
- สินทรัพย์การลงทุน / (สินทรัพย์รวม – หนี้สิน) > 50%
จงตรวจสอบฐานะการเงินของตัวเองทุกๆ 6 เดือน เพื่อดูว่า แนวโน้มของความมั่งคั่ง เพิ่มหรือลด และมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร เพื่อกำหนดแนวทางการปรับเปลี่ยนแผนการเงิน และพฤติกรรมในการบริหารเงิน
สมพจน์ พัดสุวรรณ
#wealthguru