Sundar Pichai CEO ของ Alphabet เผยว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์ AI แบบครบวงจรของบริษัทกำลังดำเนินการในวงกว้าง และถูกใช้งานโดยผู้ใช้ Google หลายพันล้านคน ซึ่ง Pichai ระบุว่าเป็น “การสร้างวงจรแห่งคุณค่า”
Philipp Schindler ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจ เสริมว่า โมเดลภาษา AI ของบริษัทอย่าง Gemini ได้ช่วยให้ YouTube สามารถแนะนำเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง สดใหม่ และตรงใจผู้ชมได้แม่นยำมากขึ้น ขณะที่ในส่วนของ Google Search ฟีเจอร์ AI ก็กำลังช่วยขยายขอบเขตและวิธีการค้นหาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในส่วนของ Google Cloud ความสำเร็จนั้นมาจากผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐาน AI และโซลูชัน Generative AI ที่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้าเดิม ดึงดูดลูกค้ารายใหม่ และทำให้สามารถเพิ่มค่าบริการได้ โดย Google Workspace ชุดเครื่องมือการทำงานและประมวลผลบนคลาวด์ของบริษัท และ Google Cloud Platform ชุดเครื่องมือด้านการจัดการข้อมูลและ AI ก็มียอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน
กองทุนหุ้นเกาหลีใต้แบบ Active Fund เป็นตลาดเอเชียที่มีโอกาสให้เข้าทยอยสะสม ด้วยมูลค่าที่ยังไม่แพง ช่วงที่ผ่านมาราคาปรับตัวลงแรงกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ยังคงแข็งแกร่ง และเติบโตตามเทรนด์ของชิปเซมิคอนดักเตอร์
กองทุนหุ้นเทคโนโลยีคุณภาพดี ซึ่งเน้นการคัดเลือกหุ้น Value Play ตามปรัชญาของผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญในการเข้าซื้อหุ้นเติบโตในราคาไม่แพง พร้อมรับอานิสงส์จากงบหุ้นบิ๊กเทคที่คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังจับตาการประกาศผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ 4 ราย ได้แก่ Alphabet (GOOGL) , Microsoft (MSFT), Meta (META) และ Apple (AAPL) ท่ามกลางการแข่งขันด้าน AI ที่ทวีความเข้มข้น และความท้าทายที่แตกต่างกันในแต่ละบริษัท
ตารางคาดการณ์วันประกาศงบ | Source: Earnings Whispers as of 25/10/2024
ส่วน Google Cloud กลับกลายเป็น “เดอะแบก” ของบริษัท โดยสร้างรายได้ 9.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.23 แสนล้านบาท) เติบโต 22% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนถึงความสำเร็จจากการลงทุนอย่างหนักในโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ เพื่อไล่ตาม Amazon Web Services และ Microsoft Azure ที่นำตลาดอยู่ในขณะนี้
ที่น่าจับตามองคือ Alphabet ยังคงทุ่มงบประมาณมหาศาลในการพัฒนา AI โดยใช้เงินถึง 2.38 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8 แสนล้านบาท) ในไตรมาส 2 สำหรับการวิจัยและพัฒนา โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับ AI ล่าสุดบริษัทได้ควบรวมทีม Google Research และ DeepMind เข้าด้วยกันเพื่อจัดตั้งแผนก AI Plus มุ่งเร่งพัฒนาโมเดล AI และผสานเทคโนโลยีเข้ากับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
Meta ยังคงเดินหน้าพัฒนาด้าน AI อย่างต่อเนื่อง โดย CEO ของบริษัทอย่าง Mark Zuckerberg เชื่อมั่นว่า Meta AI จะก้าวขึ้นเป็นผู้ช่วย AI ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลกภายในสิ้นปีนี้ หลังจากเปิดตัว Llama 3.2 AI รุ่นใหม่ที่ทรงพลังที่สุดไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด
ขณะที่ทางด้านของ Bank of America ถึงกับจัดให้ Meta เป็น “หุ้น AI ที่น่าลงทุน” โดยชี้ถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจโฆษณา การเพิ่มขึ้นของผู้ใช้งานรุ่นใหม่ และศักยภาพของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของบริษัท
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจบริการของ Apple ยังคงแสดงให้เห็นแนวโน้มที่น่าสนใจ โดยคาดว่าจะเติบโตในระดับ Double-Digit ซึ่งจะช่วยรักษาอัตรากำไรจากการดำเนินงานให้แข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน บริษัทก็ยังคงพัฒนาความสามารถด้าน AI อย่างต่อเนื่องผ่านฟีเจอร์ Apple Intelligence ที่ผสานรวมอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
People and Profile: ศึกษาโครงสร้างองค์กร โครงสร้างทีมงาน รวมถึงประวัติผู้จัดการกองทุน และความต่อเนื่องในการบริหารกองทุน เพื่อประเมินถึงความน่าเชื่อถือ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของทีมบริหาร
กองทุน KKP GNP เป็นกองทุนรวมหุ้นโลกที่ได้รับเรตติ้งจาก Morningstar สูงถึง 5 ดาว มีกองทุนหลัก คือ Capital Group New Perspective Fund ที่บริหารจัดการแบบเชิงรุก (Active Management) โดย Capital Group
ผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก
Source: Capital Group as of 31 July 2024
Microsoft (MSFT) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ประกาศแผนเปิดให้องค์กรต่าง ๆ สามารถสร้าง AI Agents อัตโนมัติของตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Copilot Studio ภายในเดือนธันวาคมนี้ พร้อมเปิดตัว AI Agents ใหม่ 10 ตัวใน Dynamics 365 เพื่อชิงความได้เปรียบในตลาด AI ที่กำลังแข่งขันรุนแรง
การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นในงาน “AI Tour” ที่กรุงลอนดอน โดย Microsoft จะยกระดับแพลตฟอร์ม Copilot Studio ที่ใช้สำหรับปรับแต่งและสร้างผู้ช่วย AI หรือที่เรียกว่า “Copilot” ให้รองรับการสร้าง AI Agents อัตโนมัติ โดยจะเปิดให้ใช้งานในเวอร์ชันตัวอย่างตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้ และจะดำเนินต่อไปจนถึงต้นปี 2025 ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Microsoft เคยเปิดให้ทดลองใช้แบบจำกัดมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
AI Agents นวัตกรรมเปลี่ยนโลก?
AI Agents เปรียบเสมือนพนักงานเสมือนจริงที่สามารถทำงานได้หลากหลายโดยไม่ต้องมีการกำกับดูแล ถือเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญของ AI ที่ใช้ Large Language Model (LLM) จากรูปแบบการแชทไปสู่การผสมผสานให้เข้ากับการทำงานได้ราบรื่นมากขึ้น
นอกจากนี้ Microsoft ยังประกาศเปิดตัว AI Agents ใหม่ 10 ตัวใน Dynamics 365 ซึ่งเป็นชุดแอปพลิเคชันสำหรับการวางแผนทรัพยากรองค์กรและการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ โดยจะครอบคลุมทีมงานด้านการขาย บริการ การเงิน และซัพพลายเชน
Jared Spataro รองประธานฝ่ายงานสมัยใหม่และแอปพลิเคชันธุรกิจของ Microsoft ได้สาธิตตัวอย่าง AI Agent ที่พัฒนาโดยบริษัทที่ปรึกษา McKinsey ซึ่งสามารถวิเคราะห์อีเมล ตรวจสอบประวัติ จับคู่คำศัพท์มาตรฐานในอุตสาหกรรม และค้นหาบุคคลที่เหมาะสมเพื่อดำเนินการขั้นตอนต่อไป รวมถึงเขียนสรุปและตอบกลับอีเมลอัตโนมัติ
การพัฒนา AI Agent นี้สามารถใช้ภาษาธรรมดาทั่วไปได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาโปรแกรมมิ่ง โดย McKinsey ระบุว่า AI Agent สามารถลดระยะเวลาในการทำงานลงได้ถึง 90%
ศึกใหญ่ Microsoft vs Salesforce
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ Microsoft เกิดขึ้นหลังจาก Salesforce คู่แข่งรายสำคัญได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม Agentforce ในงาน Dreamforce ที่ซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถสร้าง AI Agents ของตนเองได้เช่นกัน
การแข่งขันระหว่าง Microsoft และ Salesforce มีมาอย่างยาวนาน โดยก่อนหน้านี้ Marc Benioff ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งของ Salesforce เคยเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลของยุโรปตรวจสอบข้อตกลงการซื้อ LinkedIn ของ Microsoft ว่าอาจละเมิดกฎการแข่งขันทางการค้า
ล่าสุด Microsoft ยังได้ลงนามข้อตกลงระยะเวลา 5 ปีกับรัฐบาลสหราชอาณาจักร เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐสามารถเข้าถึงเครื่องมือ AI ของบริษัทได้
ภายใต้ข้อตกลงกับ Crown Commercial Service ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลสหราชอาณาจักร จะอนุญาตให้หน่วยงานภาครัฐสามารถเข้าถึงชุดเครื่องมือ Microsoft 365, แพลตฟอร์มคลาวด์ Azure และ Microsoft 365 Copilot ที่ผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับแอปพลิเคชันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
การเปิดตัว AI Agents ใหม่ของ Microsoft ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ทวีความเข้มข้นในตลาด AI โดยเฉพาะในกลุ่มองค์กรธุรกิจ ซึ่งทั้ง Microsoft และ Salesforce ต่างพยายามนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรมากที่สุด
ด้วยความสามารถในการทำงานอัตโนมัติและการเรียนรู้จากข้อมูล AI Agents มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานขององค์กรอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล การตัดสินใจ และการให้บริการลูกค้า
การเปิดให้องค์กรสามารถสร้าง AI Agents ของตนเองได้นั้น นับเป็นก้าวสำคัญในการทำให้เทคโนโลยี AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละองค์กร ซึ่งจะช่วยเร่งการนำ AI ไปใช้งานจริงในภาคธุรกิจ
เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้กลุ่ม Global Bond Discretionary ประเภท Feeder Fund ที่เน้นลงทุนแบบมีความเสี่ยงต่างประเทศ หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (SSF) และหน่วยลงทุนชนิดเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
กองทุนหลักจัดตั้งและบริหารจัดการโดย J.P. Morgan Asset Management ผู้จัดการกองทุนระดับโลกที่มีประสบการณ์มายาวนาน นับตั้งแต่ปี 1935 (Source: PitchBook, as of 7/10/24)
กองทุน UGBF-SSF และ UGBFRMF ลงทุนในกองทุนหลักคือ JPMorgan Investment Funds – Global Balanced Fund class: JPM Global Balanced C (acc) – USD (hedged) ซึ่งบริหารจัดการโดย J.P. Morgan Asset Management ผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์มายาวนาน นับตั้งแต่ปี 1935 (Source: PitchBook, as of 7/10/24)
กองทุนหลักเป็นกองทุนรวมแบบผสมที่มีจุดเด่นในเรื่องการบริหารการลงทุนแบบเชิงรุก มีการปรับสัดส่วนที่ยืดหยุ่นให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน ด้วยการบริหารจัดการกองทุนโดย J.P. Morgan Asset Management เป็นบริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน